- หน้า 243 -
๒. จัตตาริสูตร
[๒๘๑] ดูกรภิกษุทั้งหลาย ปัจจัย น้อย หาได้ง่าย และไม่มีโทษ ๔ อย่างนี้ ๔ อย่าง
เป็นไฉน ดูกรภิกษุทั้งหลาย บรรดาจีวร ผ้าบังสุกุล น้อย หาได้ง่ายและไม่มีโทษ บรรดา
โภชนะ คำข้าวที่ได้ด้วยปลีแข็ง น้อย หาได้ง่ายและไม่มีโทษบรรดาเสนาสนะ โคนไม้ น้อย
หาได้ง่ายและไม่มีโทษ บรรดาเภสัช มูตรเน่า น้อยหาได้ง่ายและไม่มีโทษ ดูกรภิกษุทั้งหลาย
ปัจจัย น้อย หาได้ง่ายและไม่มีโทษ๔ อย่างนี้แล ดูกรภิกษุทั้งหลาย เรากล่าวธรรมอย่างใด
อย่างหนึ่ง ของภิกษุซึ่งเป็นผู้สันโดษด้วยปัจจัยที่น้อย หาได้ง่ายและไม่มีโทษ ว่าเป็นองค์แห่ง
ความเป็นสมณะ ฯ
ความคับแค้นแห่งจิต ย่อมไม่มีแก่ภิกษุผู้สันโดษด้วยปัจจัยน้อย หา
ได้ง่ายและไม่มีโทษ เพราะปรารภเสนาสนะ จีวรปานะและโภชนะ
ทิศของเธอชื่อว่าไม่กระทบกระเทือน ภิกษุผู้สันโดษ ไม่ประมาท ยึด
เหนี่ยวเอาไว้ได้ซึ่งธรรมอันสมควรแก่ธรรมเครื่องความเป็นสมณะ
ที่พระตถาคตตรัสบอกแล้วแก่เธอ ฯ
จบสูตรที่ ๒
๓. ชานสูตร
[๒๘๒]
ดูกรภิกษุทั้งหลาย เรากล่าวความสิ้นไปแห่งอาสวะทั้งหลายของภิกษุผู้รู้เห็นอยู่
เราไม่กล่าวความสิ้นไปแห่งอาสวะทั้งหลาย ของภิกษุผู้ไม่รู้ไม่เห็น ดูกรภิกษุทั้งหลาย ก็เมื่อ
ภิกษุรู้อะไร เห็นอะไร อาสวะทั้งหลายจึงสิ้นไปเมื่อภิกษุรู้อยู่เห็นอยู่ว่า นี้ทุกข์ อาสวะ
ทั้งหลายจึงสิ้นไป เมื่อภิกษุรู้อยู่เห็นอยู่นี้ทุกขสมุทัย อาสวะทั้งหลายจึงสิ้นไป เมื่อภิกษุรู้อยู่
เห็นอยู่ว่า นี้ทุกขนิโรธอาสวะทั้งหลายจึงสิ้นไป เมื่อภิกษุรู้อยู่เห็นอยู่ว่า นี้ทุกขนิโรธคามินีปฏิปทา
อาสวะทั้งหลายจึงสิ้นไป ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุรู้อยู่เห็นอยู่อย่างนี้แล อาสวะทั้งหลายจึงสิ้นไป ฯ
ปฐมญาณ (คืออนัญญตัญญัสสามีตินทรีย์) ย่อมเกิดขึ้นแก่พระเสขะผู้
ศึกษาอยู่ ผู้ปฏิบัติตามทางตรง ในเพราะโสดาปัตติมรรคอันเป็นเครื่อง
สุตันตปิฎกไทย:
- อิติวุ. ขุ. 25/309/282.