- หน้า 8 -
ปหานสูตร
[๙] ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุย่อมอยู่ประพฤติพรหมจรรย์เพื่อละ เพื่อตัดสังโยชน์ ๗
ประการ ๗ ประการเป็นไฉน คือ สังโยชน์ คือ ความยินดี ๑ความยินร้าย ๑ ความเห็นผิด ๑
ความสงสัย ๑ มานะ ๑ ความกำหนัดในภพ ๑อวิชชา ๑ ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุย่อมอยู่
ประพฤติพรหมจรรย์เพื่อละ เพื่อตัดสังโยชน์ ๗ ประการนี้แล ดูกรภิกษุทั้งหลาย เมื่อใดแล
ภิกษุละสังโยชน์ คือความยินดีเสียได้ ตัดรากขาดแล้ว ทำให้เป็นเหมือนตาลยอดด้วน ไม่ให้มี
ไม่ให้เกิดขึ้นต่อไปเป็นธรรมดา ละสังโยชน์ คือความยินร้าย ฯลฯ สังโยชน์คือความเห็นผิด ฯลฯ
สังโยชน์คือความสงสัย ฯลฯ สังโยชน์คือมานะ ฯลฯสังโยชน์คือความกำหนัดในภพ ฯลฯ
สังโยชน์คืออวิชชาเสียได้ ตัดรากขาดแล้วทำให้เป็นเหมือนตาลยอดด้วน ไม่ให้มี ไม่ให้เกิด
ขึ้นอีกต่อไปเป็นธรรมดาเมื่อนั้น ภิกษุนี้ เรากล่าวว่า ตัดตัณหาได้ขาดแล้ว เพิกถอนสังโยชน์
ได้แล้วกระทำที่สุดแห่งทุกข์ได้แล้ว เพราะตรัสรู้คือละมานะเสียได้โดยชอบ ฯ
จบสูตรที่ ๙
มัจฉริยสูตร
[๑๐]
ดูกรภิกษุทั้งหลาย สังโยชน์ ๗ ประการนี้ ๗ ประการเป็นไฉน คือสังโยชน์คือ
ความยินดี ๑ ความยินร้าย ๑ ความเห็นผิด ๑ ความสงสัย ๑ มานะ ๑ ความริษยา ๑ ความ
ตระหนี่ ๑ ดูกรภิกษุทั้งหลาย สังโยชน์ ๗ ประการนี้แล ฯ
จบสูตรที่ ๑๐
จบธนวรรคที่ ๑
รวมพระสูตรที่มีในวรรคนี้ คือ
๑. อัปปิยสูตรที่ ๑ ๒. อัปปิยสูตรที่ ๒
๓. พลสูตรที่ ๑ ๔. พลสูตรที่ ๒
๕. ธนสูตรที่ ๑ ๖. ธนสูตรที่ ๒
๗. อุคคสูตร ๘. สังโยชนสูตร
๙. ปหานสูตร ๑๐. มัจฉริยสูตร
____________
สุตันตปิฎกไทย:
- สตฺตก. อํ. 23/8/10.