- หน้า 206 -
อย่างอื่น ข้าแต่พระโคดมผู้เจริญ ก็พิธีปลงบาปของพราหมณ์ทั้งหลาย ย่อมไม่ถึงเสี้ยวที่ ๑๖
แห่งพิธีปลงบาปในวินัยแห่งพระอริยะนี้ ข้าแต่พระโคดมผู้เจริญ ภาษิตของพระองค์แจ่มแจ้ง
ยิ่งนัก ฯลฯ ขอพระโคดมผู้เจริญโปรดทรงจำข้าพระองค์ว่า เป็นอุบาสกถึงสรณะตลอดชีวิต
ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ฯ
จบสูตรที่ ๗
ปัจโจโรหณีสูตรที่ ๒
[๑๒๐] ดูกรภิกษุทั้งหลาย เราจักแสดงพิธีปลงบาปอันเป็นอริยะแก่เธอทั้งหลาย เธอ
ทั้งหลายจงฟังพิธีปลงบาปอันเป็นอริยะนั้น จงใส่ใจให้ดี เราจักกล่าวภิกษุเหล่านั้นทูลรับ
แด่พระผู้มีพระภาคแล้ว พระผู้มีพระภาคได้ตรัสว่า ดูกรภิกษุทั้งหลาย ก็พิธีปลงบาป อันเป็น
อริยะเป็นไฉน ดูกรภิกษุทั้งหลาย อริยสาวกในธรรมวินัยนี้ ย่อมพิจารณาเห็นดังนี้ว่า วิบาก
แห่งมิจฉาทิฐิแล เป็นสิ่งที่ชั่วช้าทั้งในปัจจุบันทั้งในสัมปรายภพ อริยสาวกนั้น ครั้นพิจารณา
เห็นดังนี้แล้ว ย่อมละมิจฉาทิฐิ ย่อมปลงบาปจากมิจฉาทิฐิ ย่อมพิจารณาเห็นดังนี้ว่า วิบาก
แห่งมิจฉาสังกัปปะ ... แห่งมิจฉาวาจา ... แห่งมิจฉากัมมันตะ ... แห่งมิจฉาอาชีวะ ...แห่งมิจฉา
วายามะ ... แห่งมิจฉาสติ ... แห่งมิจฉาสมาธิ ... แห่งมิจฉาญาณะ ...แห่งมิจฉาวิมุติแล เป็น
สิ่งที่ชั่วช้าทั้งในปัจจุบันทั้งในสัมปรายภพ อริยสาวกนั้นครั้นพิจารณาเห็นดังนี้แล้ว ย่อมละ
มิจฉาวิมุติ ย่อมปลงจากบาปจากมิจฉาวิมุติดูกรภิกษุทั้งหลาย ข้อนี้เรากล่าวว่า เป็นพิธีปลงบาป
อันเป็นอริยะ ฯ
จบสูตรที่ ๘
ปุพพังคสูตร
[๑๒๑]
ดูกรภิกษุทั้งหลาย สิ่งที่เริ่มต้นเป็นนิมิตเบื้องต้น แห่งดวงอาทิตย์เมื่อจะอุทัย
คือ แสงเงินแสงทอง ฉันใด ดูกรภิกษุทั้งหลาย สิ่งที่เริ่มต้นเป็นนิมิตเบื้องต้นแห่งกุศลธรรม
ทั้งหลาย คือ สัมมาทิฐิ ฉันนั้นเหมือนกันแล ดูกรภิกษุทั้งหลาย สัมมาสังกัปปะ ย่อม
สุตันตปิฎกไทย:
- ทสก.อํ. 24/254/121.