- หน้า 153 -
อุบาสกวรรคที่ ๕ กามโภคีสูตร- หน้า 154 -
ให้เป็นสุข ให้อิ่มหนำ แจกจ่ายกระทำบุญ แต่เป็นผู้กำหนัด หมกมุ่น จดจ่อ ไม่เห็นโทษ ไม่มีปัญญาเป็นเครื่องสลัดออก บริโภคโภคทรัพย์นั้น ๑ กามโภคีบุคคลบางคนในโลกนี้ แสวง หาโภคทรัพย์โดยชอบธรรม โดยไม่ทารุณ ครั้นแสวงหาได้แล้ว ย่อมเลี้ยงตนให้เป็นสุข ให้อิ่มหนำ แจกจ่าย กระทำบุญ และเป็นผู้ไม่กำหนัด ไม่หมกมุ่นไม่จดจ่อ เห็นโทษ มี ปัญญาเป็นเครื่องสลัดออก บริโภคโภคทรัพย์นั้น ๑ ฯ ดูกรคฤหบดี ในกามโภคีบุคคล ๑๐ จำพวกนั้น กามโภคีบุคคลผู้แสวงหาโภคทรัพย์โดย ไม่ชอบธรรม โดยทารุณ ครั้นแสวงหาได้แล้ว ย่อมไม่เลี้ยงตนให้เป็นสุข ให้อิ่มหนำ ไม่ แจกจ่าย ไม่กระทำบุญ กามโภคีบุคคลนี้ ควรติเตียนโดย ๓ สถาน คือ ควรติเตียนโดยสถาน ที่ ๑ ว่า แสวงหาโภคทรัพย์โดยไม่ชอบธรรม โดยทารุณ ควรติเตียนโดยสถานที่ ๒ ว่า ไม่ เลี้ยงตนให้เป็นสุข ให้อิ่มหนำ ควรติเตียนโดยสถานที่ ๓ ว่า ไม่แจกจ่าย ไม่กระทำบุญ กามโภคีบุคคลนี้ควรติเตียนโดย ๓ สถานนี้ ฯ กามโภคีบุคคลผู้แสวงหาโภคทรัพย์โดยไม่ชอบธรรม โดยทารุณ ครั้นแสวงหาได้แล้ว ย่อมเลี้ยงตนให้เป็นสุข ให้อิ่มหนำ แต่ไม่แจกจ่าย ไม่กระทำบุญ กามโภคีบุคคลนี้ การติเตียน โดย ๒ สถาน ควรสรรเสริญโดย ๑ สถานคือ ควรติเตียนโดยสถานที่ ๑ ว่า แสวงหา โภคทรัพย์โดยไม่ชอบธรรม โดยทารุณ ควรสรรเสริญโดยสถานเดียวว่า เลี้ยงตนให้เป็นสุข ให้อิ่มหนำ ควรติเตียนโดยสถานที่ ๒ ว่า ไม่แจกจ่าย ไม่ทำบุญ กามโภคีบุคคลนี้ ควรติเตียน โดย ๒ สถานนี้ ควรสรรเสริญโดย ๑ สถานนี้ ฯ กามโภคีบุคคลผู้แสวงหาโภคทรัพย์โดยไม่ชอบธรรม โดยทารุณ ครั้นแสวงหาได้แล้ว ย่อมเลี้ยงตนให้เป็นสุข ให้อิ่มหนำ แจกจ่ายกระทำบุญ กามโภคีบุคคลนี้ ควรติเตียนโดย ๑ สถาน ควรสรรเสริญโดยสถาน ๒ คือ ควรติเตียนโดย ๑ สถานว่า แสวงหาโภคทรัพย์โดย ไม่ชอบธรรม โดยทารุณ ควรสรรเสริญโดยสถานที่ ๑ ว่า เลี้ยงตนให้เป็นสุข ให้อิ่มหนำ ควรสรรเสริญโดยสถานที่ ๒ ว่า แจกจ่าย กระทำบุญ กามโภคีบุคคลนี้ควรติเตียนโดย ๑ สถานควรสรรเสริญโดย ๒ สถานนี้ ฯ กามโภคีบุคคลผู้แสวงหาโภคทรัพย์ โดยชอบธรรมและไม่ชอบธรรมโดยทารุณบ้าง ไม่ทารุณบ้าง ครั้นแสวงหาได้แล้ว ย่อมไม่เลี้ยงตนให้เป็นสุขให้อิ่มหนำ ไม่แจกจ่าย ไม่ กระทำบุญ กามโภคีบุคคลนี้ ควรสรรเสริญโดย ๑สถาน ควรติเตียนโดย ๓ สถาน คือ ควร- หน้า 155 -
สรรเสริญโดย ๑ สถานว่า แสวงหาโภคทรัพย์ โดยชอบธรรม โดยไม่ทารุณ ควรติเตียนโดย สถานที่ ๑ ว่าแสวงหาโภคทรัพย์โดยไม่ชอบธรรม โดยทารุณ ควรติเตียนโดยสถานที่ ๒ ว่า ไม่เลี้ยงตนให้เป็นสุข ให้อิ่มหนำ ควรติเตียนโดยสถานที่ ๓ ว่า ไม่แจกจ่ายไม่กระทำบุญ กามโภคีบุคคลนี้ควรสรรเสริญโดย ๑ สถานนี้ ควรติเตียนโดย ๓สถานนี้ ฯ กามโภคีบุคคลผู้แสวงหาโภคทรัพย์ โดยชอบธรรมและไม่ชอบธรรมโดยทารุณบ้าง ไม่ทารุณบ้าง ครั้นแสวงหาได้แล้ว ย่อมเลี้ยงตนให้เป็นสุข ให้อิ่มหนำ แต่ไม่แจกจ่าย ไม่ กระทำบุญ กามโภคีบุคคลนี้ ควรสรรเสริญโดย ๒สถาน ควรติเตียนโดย ๒ สถาน คือ ควร สรรเสริญโดยสถานที่ ๑ ว่า แสวงหาโภคทรัพย์โดยชอบธรรม โดยไม่ทารุณ ควรติเตียนโดย สถานที่ ๑ ว่า แสวงหาโภคทรัพย์โดยไม่ชอบธรรม โดยทารุณ ควรสรรเสริญโดยสถานที่ ๒ ว่า เลี้ยงตนให้เป็นสุข ให้อิ่มหนำ ควรติเตียนโดยสถานที่ ๒ ว่า ไม่แจกจ่าย ไม่กระทำบุญ กามโภคีบุคคลนี้ ควรสรรเสริญโดย ๒ สถานนี้ ควรติเตียนโดย ๒สถานนี้ ฯ กามโภคีบุคคลผู้แสวงหาโภคทรัพย์ โดยชอบธรรมและไม่ชอบธรรมโดยทารุณบ้าง ไม่ทารุณบ้าง ครั้นแสวงหาได้แล้ว ย่อมเลี้ยงตนให้เป็นสุข ให้อิ่มหนำ แจกจ่าย กระทำบุญ กามโภคีบุคคลนี้ ควรสรรเสริญโดย ๓ สถานควรติเตียนโดย ๑ สถาน ควรสรรเสริญโดย สถานที่ ๑ ว่า แสวงหาโภคทรัพย์โดยชอบธรรม โดยไม่ทารุณ ควรติเตียนโดย ๑ สถานว่า แสวงหาโภคทรัพย์โดยไม่ชอบธรรม โดยทารุณ ควรสรรเสริญโดยสถานที่ ๒ ว่า ย่อมเลี้ยง ตนให้เป็นสุข ให้อิ่มหนำ ควรสรรเสริญโดยสถานที่ ๓ ว่า แจกจ่าย กระทำบุญกามโภคี บุคคลนี้ ควรสรรเสริญโดย ๓ สถานนี้ ควรติเตียนโดย ๑ สถานนี้ ฯ กามโภคีบุคคลผู้แสวงหาโภคทรัพย์โดยชอบธรรม โดยไม่ทารุณ ครั้นแสวงหาได้แล้ว ไม่เลี้ยงตนให้เป็นสุข ให้อิ่มหนำ ไม่แจกจ่าย ไม่กระทำบุญกามโภคีบุคคลนี้ควรสรรเสริญโดย ๑ สถาน ควรติเตียนโดย ๒ สถาน คือ ควรสรรเสริญโดย ๑ สถานว่า แสวงหาโภคทรัพย์ โดยชอบธรรม โดยไม่ทารุณ ควรติเตียนโดยสถานที่ ๑ ว่า ไม่เลี้ยงตนให้เป็นสุข ให้อิ่มหนำ ควรติเตียนโดยสถานที่ ๒ ว่า ไม่แจกจ่าย ไม่กระทำบุญ กามโภคีบุคคลนี้ ควรสรรเสริญโดย ๑ สถานนี้ ควรติเตียนโดย ๒ สถานนี้ ฯ กามโภคีบุคคลผู้แสวงหาโภคทรัพย์โดยชอบธรรม โดยไม่ทารุณ ครั้นแสวงหาได้แล้ว ย่อมเลี้ยงตนให้เป็นสุข ให้อิ่มหนำ แต่ไม่แจกจ่าย ไม่กระทำบุญ กามโภคีบุคคลนี้ ควร- หน้า 156 -
สรรเสริญโดย ๒ สถาน ควรติเตียนโดย ๑ สถานคือ ควรสรรเสริญโดยสถานที่ ๑ ว่า แสวง หาโภคทรัพย์โดยชอบธรรม โดยไม่ทารุณ ควรสรรเสริญโดยสถานที่ ๒ ว่า ย่อมเลี้ยงตนให้ เป็นสุข ให้อิ่มหนำควรติเตียนโดย ๑ สถานว่า ไม่แจกจ่าย ไม่กระทำบุญ กามโภคีบุคคลนี้ สรรเสริญโดย ๒ สถานนี้ ควรติเตียนโดย ๑ สถานนี้ ฯ กามโภคีบุคคลผู้แสวงหาโภคทรัพย์โดยชอบธรรม โดยไม่ทารุณ ครั้นแสวงหาได้แล้ว ย่อมเลี้ยงตนให้เป็นสุข ให้อิ่มหนำ แจกจ่าย กระทำบุญ แต่เป็นผู้กำหนัด หมกมุ่น จดจ่อ ไม่เห็นโทษ ไม่มีปัญญาเป็นเครื่องสลัดออกบริโภคโภคทรัพย์นั้น กามโภคีบุคคลนี้ควรสรรเสริญ โดย ๓ สถาน ควรติเตียนโดย ๑ สถาน คือ ควรสรรเสริญโดยสถานที่ ๑ ว่า แสวงหาโภคทรัพย์ โดยชอบธรรม โดยไม่ทารุณ ควรสรรเสริญโดยสถานที่ ๒ ว่า ย่อมเลี้ยงตนให้เป็นสุข ให้ อิ่มหนำ ควรสรรเสริญโดยสถานที่ ๓ ว่า แจกจ่าย กระทำบุญ ควรติเตียนโดย ๑ สถานว่า เป็นผู้กำหนัด หมกมุ่น พัวพัน ไม่เห็นโทษ ไม่มีปัญญาเป็นเครื่องสลัดออก บริโภคโภคทรัพย์ นั้น กามโภคีบุคคลนี้ ควรสรรเสริญโดย ๓สถานนี้ ควรติเตียนโดย ๑ สถานนี้ ฯ กามโภคีบุคคลผู้แสวงหาโภคทรัพย์โดยชอบธรรม โดยไม่ทารุณ ครั้นแสวงหาได้แล้ว ย่อมเลี้ยงตนให้เป็นสุข ให้อิ่มหนำ แจกจ่ายกระทำบุญ และไม่กำหนัด ไม่หมกมุ่น ไม่จดจ่อ เห็นโทษ มีปัญญาเป็นเครื่องสลัดออกบริโภคโภคทรัพย์นั้น กามโภคีบุคคลนี้ ควรสรรเสริญ โดย ๔ สถาน คือ ควรสรรเสริญโดยสถานที่ ๑ ว่า แสวงหาโภคทรัพย์โดยชอบธรรม โดย ไม่ทารุณควรสรรเสริญโดยสถานที่ ๒ ว่า ย่อมเลี้ยงตนให้เป็นสุข ให้อิ่มหนำ ควรสรรเสริญ โดยสถานที่ ๓ ว่า แจกจ่าย กระทำบุญ ควรสรรเสริญโดยสถานที่ ๔ว่า เป็นผู้ไม่กำหนัด ไม่หมกมุ่น ไม่พัวพัน เห็นโทษ มีปัญญาเป็นเครื่องสลัดออก บริโภคโภคทรัพย์นั้น กามโภคี บุคคลนี้ ควรสรรเสริญโดย ๔ สถานนี้ ฯ ดูกรคฤหบดี กามโภคีบุคคล ๑๐ จำพวกนี้แล มีปรากฏอยู่ในโลกบรรดากามโภคี บุคคล ๑๐ จำพวกนี้ กามโภคีบุคคลผู้แสวงหาโภคทรัพย์โดยชอบธรรมโดยไม่ทารุณ ครั้น แสวงหาได้แล้ว ย่อมเลี้ยงตนให้เป็นสุข ให้อิ่มหนำ แจกจ่ายกระทำบุญ และเป็นผู้ ไม่กำหนัด ไม่หมกมุ่น ไม่จดจ่อ เห็นโทษ มีปัญญาเป็นเครื่องสลัดออก บริโภคโภคทรัพย์ นั้น นี้เป็นผู้เลิศ ประเสริฐ เป็นใหญ่สูงสุด ดีกว่ากามโภคีบุคคล ๑๐ จำพวกนี้ ดูกรคฤหบดี นมสดเกิดจากแม่โคนมส้มเกิดจากนมสด เนยข้นเกิดจากนมส้ม เนยใสเกิดจากเนยข้น