สุตันตปิฎกไทย

อฏฺฐก.อํ. 23/302 304/151. เล่ม 23, หน้า 232 - 233, ข้อ 151

- หน้า 232 -

จาลวรรคที่ ๓ อิจฉาสูตร

[๑๕๑]
ดูกรภิกษุทั้งหลาย บุคคล ๘ จำพวกมีปรากฏอยู่ในโลก ๘ จำพวกเป็นไฉน ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุในธรรมวินัยนี้ ชอบสงัด ไม่เจริญกรรมฐานให้ติดต่อเนื่องกันไป ย่อม เกิดความปรารถนาลาภ เธอย่อมหมั่นเพียรพยายามเพื่อจะได้ลาภ เมื่อเธอหมั่นเพียรพยายามเพื่อ ที่จะได้ลาภ ลาภไม่เกิดขึ้นเธอย่อมเศร้าโศก ลำบาก ร่ำไร ทุบอกคร่ำครวญ ถึงความหลงใหล เพราะไม่ได้ลาภนั้น ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุนี้เรียกว่าผู้ปรารถนาลาภ หมั่นเพียรพยายามเพื่อ จะได้ลาภ แต่ไม่ได้ลาภ เศร้าโศก ร่ำไร และเคลื่อนจากสัทธรรม ฯ อนึ่ง ภิกษุในธรรมวินัยนี้ ชอบสงัด ไม่เจริญกรรมฐานให้ติดต่อเนื่องกันไป ย่อมเกิด ความปรารถนาลาภ เธอย่อมหมั่นเพียรพยายามเพื่อจะได้ลาภเมื่อเธอหมั่นเพียรพยายามเพื่อจะ ได้ลาภ ลาภเกิดขึ้น เธอย่อมมัวเมาถึงความประมาทเพราะลาภนั้น ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุนี้ เรียกว่าผู้มีความปรารถนาลาภย่อมหมั่นเพียรพยายามเพื่อจะได้ลาภ ได้ลาภแล้ว มัวเมา ประมาท และเคลื่อนจากสัทธรรม ฯ อนึ่ง ภิกษุในธรรมวินัยนี้ ชอบสงัด ไม่เจริญกรรมฐานให้ติดต่อเนื่องกันไป ย่อมเกิด ความปรารถนาลาภ เธอไม่หมั่นเพียรพยายามเพื่อจะได้ลาภ เมื่อเธอไม่หมั่นเพียรพยายามเพื่อจะ ได้ลาภ ลาภไม่เกิดขึ้น เธอย่อมเศร้าโศก ลำบากร่ำไร ทุบอกคร่ำครวญ ถึงความหลงใหล เพราะไม่ได้ลาภนั้น ดูกรภิกษุทั้งหลายภิกษุนี้เรียกว่าผู้มีความปรารถนาลาภ ไม่หมั่นเพียร พยายามเพื่อจะได้ลาภ ไม่ได้ลาภเศร้าโศก ร่ำไร และเคลื่อนจากสัทธรรม ฯ อนึ่ง ภิกษุในธรรมวินัยนี้ ชอบสงัด ไม่เจริญกรรมฐานให้ติดต่อเนื่องกันไป ย่อมเกิด ความปรารถนาลาภ เธอไม่หมั่นเพียรพยายามเพื่อจะได้ลาภ เมื่อเธอไม่หมั่นเพียรพยายามเพื่อจะ ได้ลาภ ลาภเกิดขึ้น เธอย่อมมัวเมาถึงประมาทเพราะลาภนั้น ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุนี้เรียกว่า

- หน้า 233 -

ผู้มีความปรารถนาลาภ ไม่หมั่นเพียรพยายามเพื่อจะได้ลาภ ได้ลาภแล้ว มัวเมา ประมาท และ เคลื่อนจากสัทธรรม ฯ อนึ่ง ภิกษุในธรรมวินัยนี้ ชอบสงัด ไม่เจริญกรรมฐานให้ติดต่อเนื่องกันไป ย่อมเกิด ความปรารถนาลาภ เธอหมั่นเพียรพยายามเพื่อจะได้ลาภ เมื่อเธอหมั่นเพียรพยายามเพื่อจะได้ลาภ ลาภไม่เกิดขึ้น เธอไม่เศร้าโศก ไม่ลำบากไม่ร่ำไร ไม่ทุบอกคร่ำครวญ ไม่ถึงความหลงใหล เพราะไม่ได้ลาภนั้น ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุนี้เรียกว่าผู้มีความปรารถนาลาภ หมั่นเพียรพยายาม เพื่อจะได้ลาภไม่ได้ลาภแล้ว ไม่เศร้าโศก ไม่ร่ำไร และไม่เคลื่อนจากสัทธรรม ฯ อนึ่ง ก็ภิกษุในธรรมวินัยนี้ ชอบสงัด ไม่เจริญกรรมฐานให้ติดต่อเนื่องกันไป ย่อม เกิดความปรารถนาลาภ เธอหมั่นเพียรพยายามเพื่อจะได้ลาภ เมื่อเธอหมั่นเพียรพยายามเพื่อจะ ได้ลาภ ลาภเกิดขึ้น เธอไม่มัวเมา ไม่ถึงความประมาทเพราะได้ลาภนั้น ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุนี้เรียกว่าผู้มีความปรารถนาลาภย่อมหมั่นเพียรพยายามเพื่อจะได้ลาภ ได้ลาภแล้ว ก็ไม่ มัวเมาประมาท และไม่เคลื่อนจากสัทธรรม ฯ อนึ่ง ภิกษุในธรรมวินัยนี้ ชอบสงัด ไม่เจริญกรรมฐานให้ติดต่อเนื่องกันไป ย่อมเกิด ความปรารถนาลาภ เธอไม่หมั่นเพียรพยายามเพื่อจะได้ลาภ เมื่อเธอไม่หมั่นเพียรพยายามเพื่อจะได้ ลาภ ลาภไม่เกิดขึ้น เธอไม่เศร้าโศก ไม่ร่ำไรไม่ทุบอกคร่ำครวญ ไม่ถึงความหลงใหลเพราะไม่ได้ ลาภนั้น ดูกรภิกษุทั้งหลายภิกษุนี้เรียกว่าผู้มีความปรารถนาลาภ ไม่หมั่นเพียรพยายามเพื่อจะ ได้ลาภ ไม่ได้ลาภแล้ว ไม่เศร้าโศก ไม่ร่ำไร และไม่เคลื่อนจากสัทธรรม ฯ อนึ่ง ภิกษุในธรรมวินัยนี้ ชอบสงัด ไม่เจริญกรรมฐานให้ติดต่อเนื่องกันไป ย่อมเกิด ความปรารถนาลาภ เธอไม่หมั่นเพียรพยายามเพื่อจะได้ลาภ เมื่อเธอไม่หมั่นเพียรพยายามเพื่อจะ ได้ลาภ ลาภเกิดขึ้น เธอไม่มัวเมา ไม่ถึงความประมาทเพราะได้ลาภนั้น ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุนี้เรียกว่าผู้มีความปรารถนาลาภไม่หมั่นเพียรพยายามเพื่อได้ลาภ ได้ลาภแล้ว ไม่มัวเมา ประมาท และไม่เคลื่อนจากสัทธรรม ดูกรภิกษุทั้งหลาย บุคคล ๘ จำพวกนี้แล มีปรากฏอยู่ ในโลก ฯ จบสูตรที่ ๑
สุตันตปิฎกไทย: - อฏฺฐก.อํ. 23/302 - 304/151.