พระสุตตันตปิฎกไทย: 22/101/90
สุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย ปัญจก-ฉักกนิบาต
ดูกรภิกษุทั้งหลาย ธรรม ๕ ประการนี้ ย่อมเป็นไปเพื่อความไม่เสื่อมแก่ภิกษุผู้เสขะ
ธรรม ๕ ประการเป็นไฉน คือ ความเป็นผู้ไม่ยินดีในการก่อสร้าง ๑ความเป็นผู้ไม่ยินดีใน
การเจรจาปราศรัย ๑ ความเป็นผู้ไม่ยินดีในการนอน ๑ ความเป็นผู้ไม่ยินดีในการคลุกคลีด้วย
หมู่คณะ ๑ พิจารณาจิตตามที่หลุดพ้นแล้ว ๑ดูกรภิกษุทั้งหลาย ธรรม ๕ ประการนี้แล
ย่อมเป็นไปเพื่อความไม่เสื่อมแก่ภิกษุผู้เสขะ ฯ
จบสูตรที่ ๙
๑๐. เสขสูตรที่ ๒
[๙๐] ดูกรภิกษุทั้งหลาย ธรรม ๕ ประการนี้ ย่อมเป็นไปเพื่อความเสื่อมแก่ภิกษุผู้
เสขะ ธรรม ๕ ประการเป็นไฉน คือ
ภิกษุผู้เสขะในธรรมวินัยนี้ เป็นผู้มีกิจมาก มีกรณียมาก ไม่ฉลาดในกิจน้อยกิจใหญ่
ละการหลีกออกเร้น ไม่ประกอบความสงบใจ ณ ภายใน ดูกรภิกษุทั้งหลาย นี้เป็นธรรมข้อที่ ๑
เป็นไปเพื่อความเสื่อมแก่ภิกษุผู้เสขะ ฯ
อีกประการหนึ่ง ภิกษุผู้เสขะย่อมปล่อยให้วันเวลาล่วงไปเพราะการงานเล็กน้อย
ละการหลีกออกเร้น ไม่ประกอบความสงบใจ ณ ภายใน ดูกรภิกษุทั้งหลาย นี้เป็นธรรมข้อที่ ๒
เป็นไปเพื่อความเสื่อมแก่ภิกษุผู้เสขะ ฯ
อีกประการหนึ่ง ภิกษุผู้เสขะย่อมคลุกคลีด้วยคฤหัสถ์และบรรพชิต ด้วยการคลุกคลี
กับคฤหัสถ์อันไม่สมควร ละการหลีกออกเร้น ไม่ประกอบความสงบใจณ ภายใน ดูกรภิกษุ
ทั้งหลาย นี้เป็นธรรมข้อที่ ๓ เป็นไปเพื่อความเสื่อมแก่ภิกษุผู้เสขะ ฯ
อีกประการหนึ่ง ภิกษุผู้เสขะย่อมเข้าไปบ้านในเวลาเช้านัก กลับมาในเวลาสายนัก
ละการหลีกออกเร้น ไม่ประกอบความสงบใจ ณ ภายใน ดูกรภิกษุทั้งหลาย นี้เป็นธรรมข้อที่ ๔
เป็นไปเพื่อความเสื่อมแก่ภิกษุผู้เสขะ ฯ
อีกประการหนึ่ง ภิกษุผู้เสขะย่อมไม่เป็นผู้ได้ตามปรารถนา ไม่เป็นผู้ได้โดยยาก
ได้โดยลำบาก ซึ่งกถาที่เป็นไปเพื่อขัดเกลากิเลส เป็นที่สบายแก่ธรรมเครื่องโปร่งจิต คือ
อัปปิจฉกถา สันตุฏฐิกถา ปวิเวกกถา อสังสัคคกถาวิริยารัมภกถา สีลกถา สมาธิกถา