พระสุตตันตปิฎกไทย: 21/102/101

สุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย จตุกกนิบาต
เล่ม 21
หน้า 102
ตติยปัณณาสก์ วลาหกวรรคที่ ๑ วลาหกสูตรที่ ๑
[๑๐๑] สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคประทับอยู่ ณ พระวิหารเชตวันอารามของท่านอนาถ บิณฑิกเศรษฐี ใกล้พระนครสาวัตถี ณ ที่นั้นแล พระผู้มีพระภาคตรัสเรียกภิกษุทั้งหลายว่า ดูกรภิกษุ ทั้งหลาย ภิกษุเหล่านั้นทูลรับพระผู้มีพระภาคแล้ว พระผู้มีพระภาคได้ตรัสพระพุทธพจน์นี้ว่า ดูกรภิกษุทั้งหลายวลาหก (เมฆ) ๔ อย่างนี้ ๔ อย่างเป็นไฉน คือ วลาหกคำราม แต่ไม่ให้ฝนตก อย่าง ๑ ให้ฝนตก แต่ไม่คำรามอย่าง ๑ ไม่คำรามทั้งไม่ให้ฝนตกอย่าง ๑ คำรามด้วยให้ฝนตกด้วย อย่าง ๑ ดูกรภิกษุทั้งหลาย วลาหก ๔ อย่างนี้แล ฯ ดูกรภิกษุทั้งหลาย ฉันนั้นเหมือนกัน บุคคลเปรียบด้วยวลาหก ๔ จำพวกนี้ มีปรากฏ อยู่ในโลก ๔ จำพวกเป็นไฉน คือ บุคคลดุจวลาหกคำรามไม่ให้ฝนตกจำพวก ๑ ดุจวลาหกให้ ฝนตก แต่ไม่คำรามจำพวก ๑ ดุจวลาหกทั้งไม่คำรามทั้งไม่ให้ฝนตกจำพวก ๑ ดุจวลาหกคำรามด้วย ให้ฝนตกด้วยจำพวก ๑ดูกรภิกษุทั้งหลาย ก็บุคคลเป็นดุจวลาหกคำราม แต่ไม่ให้ฝนตกอย่างไร บุคคลบางคนในโลกนี้ เป็นผู้ชอบพูดแต่ไม่ชอบทำ บุคคลเป็นดุจวลาหกคำราม แต่ไม่ให้ฝนตก อย่างนี้แล ดูกรภิกษุทั้งหลาย วลาหกคำราม แต่ไม่ให้ฝนตก แม้ฉันใดเรากล่าวบุคคลนี้เปรียบ ฉันนั้น ดูกรภิกษุทั้งหลาย ก็บุคคลเป็นดุจวลาหกให้ฝนตกแต่ไม่คำรามอย่างไร บุคคลบางคนใน โลกนี้ เป็นผู้ทำ แต่ไม่ชอบพูด บุคคลเป็นดุจวลาหกให้ฝนตก แต่ไม่คำรามอย่างนี้แล ดูกรภิกษุ ทั้งหลาย วลาหกให้ฝนตก แต่ไม่คำราม แม้ฉันใด เรากล่าวบุคคลนี้เปรียบฉันนั้น ดูกรภิกษุ ทั้งหลายก็บุคคลเป็นดุจวลาหกไม่คำรามทั้งไม่ให้ฝนตกอย่างไร บุคคลบางคนในโลกนี้เป็นคน ไม่ชอบพูดทั้งไม่ชอบทำ บุคคลเป็นดุจวลาหกไม่คำรามทั้งไม่ให้ฝนตกอย่างนี้แล ดูกรภิกษุทั้งหลาย วลาหกไม่คำรามทั้งไม่ให้ฝนตก แม้ฉันใด เรากล่าวบุคคลนี้เปรียบฉันนั้น ดูกรภิกษุทั้งหลาย ก็บุคคล เป็นดุจวลาหกคำรามด้วยให้ฝนตกด้วยอย่างไร บุคคลบางคนในโลกนี้ เป็นผู้ชอบพูดด้วยชอบทำ ด้วยบุคคลเป็นดุจวลาหกคำรามด้วยให้ฝนตกด้วยอย่างนี้แล ดูกรภิกษุทั้งหลาย วลาหกคำรามด้วยให้ ฝนตกด้วย แม้ฉันใด เรากล่าวบุคคลนี้เปรียบฉันนั้น ดูกรภิกษุทั้งหลาย บุคคลเปรียบด้วยวลาหก ๔ จำพวกนี้แล มีปรากฏอยู่ในโลก ฯ จบสูตรที่ ๑