พระสุตตันตปิฎกไทย: 11/106/119 120

สุตตันตปิฎก ทีฆนิกาย ปาฏิกวรรค
เล่ม 11
หน้า 106
ได้ปรารภกาลนานที่เป็นอนาคต บัญญัติญาณทัสนะที่ไม่ มีฝั่งไม่ การที่ทรงบัญญัติเช่นนั้น เป็น เพราะเหตุไร การที่ทรงบัญญัติเช่นนั้น เป็นอย่างไรเล่า พวกปริพาชกอัญญเดียรถีย์เหล่านั้น ย่อมสำคัญสิ่งที่พึงบัญญัติอันไม่ ใช่ญาณทัสนะ ซึ่งเป็นอย่างอื่น ด้วยญาณทัสนะซึ่งเป็นอย่าง อื่น เหมือนคนพาลทั้งหลายผู้ไม่เชี่ยวชาญฉะนั้น ดูกรจุนทะ สตานุสาริญาณปรารภกาลนานที่เป็น อดีตแล ย่อมมีแก่ตถาคต ตถาคตนั้นย่อมระลึกได้ตลอดกาลมีประมาณเท่าที่ตน จำนงและญาณ อันเกิดแต่ความตรัสรู้ ย่อมเกิดขึ้นแก่ตถาคต เพราะปรารภกาลนาน ที่เป็นอนาคตว่า ชาตินี้เป็น ชาติมีในที่สุด บัดนี้ภพใหม่ย่อมไม่มี ดังนี้ ฯ
[๑๑๙] ดูกรจุนทะ แม้หากว่าสิ่งที่เป็นอดีต ไม่เป็นจริง ไม่แท้ ไม่ประกอบ ด้วยประโยชน์ ตถาคตก็ไม่พยากรณ์สิ่งนั้น ดูกรจุนทะ แม้หากว่าสิ่งที่เป็นอดีต เป็นของจริง เป็นของแท้ แต่ไม่ประกอบด้วยประโยชน์ ตถาคตก็ไม่พยากรณ์ แม้สิ่งนั้น ดูกรจุนทะ แม้หาก ว่าสิ่งที่เป็นอดีต เป็นของจริง เป็นของแท้ ประกอบด้วยประโยชน์ ตถาคตย่อมเป็นผู้รู้กาล ในสิ่งนั้น เพื่อพยากรณ์ปัญหานั้น ดูกรจุนทะ แม้หากว่าสิ่งที่เป็นอนาคตไม่เป็นจริง ไม่แท้ ไม่ประกอบด้วยประโยชน์ ตถาคตก็ไม่พยากรณ์สิ่งนั้น ดูกรจุนทะ แม้หากว่าสิ่งที่เป็นอนาคต เป็นของจริง เป็นของแท้ แต่ไม่ประกอบด้วยประโยชน์ ตถาคตก็ไม่พยากรณ์แม้สิ่งนั้น ดูกรจุนทะ แม้หากว่าสิ่งที่เป็นอนาคต เป็นของจริง เป็นของแท้ ประกอบด้วยประโยชน์ ตถาคตย่อมเป็นผู้รู้กาลในสิ่งนั้น เพื่อพยากรณ์ปัญหานั้น ดูกรจุนทะ แม้หากว่าสิ่งที่เป็นปัจจุบัน ไม่เป็นจริง ไม่แท้ ไม่ประกอบด้วยประโยชน์ ตถาคตย่อมไม่ พยากรณ์สิ่งนั้น ดูกรจุนทะ แม้ หากว่าสิ่งที่เป็นปัจจุบัน เป็นของจริง เป็นของแท้ แต่ไม่ประกอบด้วยประโยชน์ ตถาคตก็ไม่ พยากรณ์แม้สิ่งนั้น ดูกรจุนทะ แม้หากว่า สิ่งที่เป็นปัจจุบัน เป็นของจริง เป็นของแท้ ประกอบ ด้วยประโยชน์ ตถาคตย่อมเป็นผู้รู้กาลในสิ่งนั้น เพื่อพยากรณ์ปัญหานั้น ด้วยเหตุดังนี้แล จุนทะ ตถาคต เป็นกาลวาที เป็นสัจจวาที เป็นภูตวาที เป็นอัตถวาที เป็นธรรมวาที เป็นวินัย วาที ในธรรมทั้งหลายทั้งที่เป็นอดีต อนาคตและปัจจุบัน เพราะฉะนั้น ชาวโลก จึงเรียกว่าตถาคโต ด้วยประการดังนี้แล ฯ
[๑๒๐] ดูกรจุนทะ ก็สิ่งใดแล อันโลกพร้อมทั้งเทวโลก มารโลก พรหมโลก อัน หมู่สัตว์พร้อมสมณพราหมณ์ เทพดามนุษย์ เห็นแล้ว ฟังแล้ว ทราบแล้ว รู้แจ้งแล้ว บรรลุแล้ว แสวงหาแล้ว ตรองตามแล้วด้วยใจ สิ่งนั้น ตถาคตได้ตรัสรู้ยิ่งแล้วโดยชอบ เพราะฉะนั้น