พระสุตตันตปิฎกไทย: 21/109/109
สุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย จตุกกนิบาต
จบวรรคที่ ๘
รุกขสูตร
[๑๐๙] ดูกรภิกษุทั้งหลาย ต้นไม้ ๔ ชนิดนี้ ๔ ชนิดเป็นไฉน คือ ต้นไม้กะพี้มีไม้
กะพี้เป็นบริวารชนิด ๑ ต้นไม้กะพี้มีไม้แก่นเป็นบริวารชนิด ๑ ต้นไม้แก่นมีไม้กะพี้เป็นบริวารชนิด
๑ ต้นไม้แก่นมีไม้แก่นเป็นบริวารชนิด ๑ดูกรภิกษุทั้งหลาย ต้นไม้ ๔ ชนิดนี้แล ดูกรภิกษุ
ทั้งหลาย ฉันนั้นเหมือนกันบุคคลเปรียบด้วยต้นไม้ ๔ จำพวกนี้ มีปรากฏอยู่ในโลก ๔ จำพวกเป็น
ไฉน คือบุคคลดุจไม้กะพี้มีไม้กะพี้เป็นบริวารจำพวก ๑ ดุจไม้กะพี้มีไม้แก่นเป็นบริวารจำพวก ๑
ดุจไม้แก่นมีไม้กะพี้เป็นบริวารจำพวก ๑ ดุจไม้แก่นมีไม้แก่นเป็นบริวารจำพวก ๑ ดูกรภิกษุทั้งหลาย
ก็บุคคลเป็นดุจไม้กะพี้มีไม้กะพี้เป็นบริวารอย่างไรบุคคลบางคนในโลกนี้ เป็นคนทุศีล มีบาป
ธรรม แม้บริษัทของเขาก็เป็นคนทุศีล มีบาปธรรม บุคคลเป็นดุจไม้กะพี้มีไม้กะพี้เป็นบริวารอย่างนี้
แล ดูกรภิกษุทั้งหลาย ต้นไม้กะพี้มีไม้กะพี้เป็นบริวาร แม้ฉันใด เรากล่าวบุคคลนี้ เปรียบฉันนั้น
ก็บุคคลเป็นดุจไม้กะพี้มีไม้แก่นเป็นบริวารอย่างไร บุคคลบางคนในโลกนี้ เป็นคนทุศีล มีบาป
ธรรม แต่บริษัทของเขาเป็นคนมีศีล มีกัลยาณธรรมบุคคลเป็นดุจไม้กะพี้มีไม้แก่นเป็นบริวารอย่าง
นี้แล ดูกรภิกษุทั้งหลาย ต้นไม้กะพี้มีไม้แก่นเป็นบริวาร แม้ฉันใด เรากล่าวบุคคลนี้เปรียบฉันนั้น
ดูกรภิกษุทั้งหลายก็บุคคลเป็นดุจไม้แก่นมีไม้กะพี้เป็นบริวารอย่างไร บุคคลบางคนในโลกนี้ เป็น
ผู้มีศีล มีกัลยาณธรรม แต่บริวารของเขาเป็นคนทุศีล มีบาปธรรม บุคคลเป็นดุจไม้แก่นมีไม้กะพี้
เป็นบริวารอย่างนี้แล ดูกรภิกษุทั้งหลาย ต้นไม้แก่นมีไม้กะพี้เป็นบริวาร แม้ฉันใด เรากล่าวบุคคล
นี้เปรียบฉันนั้น ดูกรภิกษุทั้งหลายก็บุคคลเป็นดุจไม้แก่นมีไม้แก่นเป็นบริวารอย่างไร บุคคล
บางคนในโลกนี้ เป็นผู้มีศีล มีกัลยาณธรรม แม้บริษัทของเขาก็เป็นคนมีศีล มีกัลยาณธรรม บุคคล
เป็นดุจไม้แก่นมีไม้แก่นเป็นบริวารอย่างนี้แล ดูกรภิกษุทั้งหลาย ต้นไม้แก่นมีไม้แก่นเป็นบริวารแม้
ฉันใด เรากล่าวบุคคลนี้เปรียบฉันนั้น ดูกรภิกษุทั้งหลายบุคคลเปรียบด้วยต้นไม้ ๔ จำพวกนี้แล
มีปรากฏอยู่ในโลก ฯ
จบสูตรที่ ๙