พระสุตตันตปิฎกไทย: 23/11/15
สุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย สัตตก-อัฏฐก-นวกนิบาต
อุทกูปมสูตร
[๑๕] ดูกรภิกษุทั้งหลาย บุคคลเปรียบด้วยน้ำ ๗ จำพวกนี้ มีปรากฏอยู่ในโลก ๗ จำพวก
เป็นไฉน บุคคลบางคนในโลกนี้ จมลงแล้วคราวเดียวก็เป็นอันจมอยู่นั่นเอง ๑ บางคนโผล่ขึ้น
มาแล้ว กลับจมลงไป ๑ บางคนโผล่พ้นแล้วทรงตัวอยู่ ๑ บางคนโผล่ขึ้นแล้วเหลียวไปมา ๑
บางคนโผล่ขึ้นแล้วเตรียมตัวจะข้าม ๑ บางคนโผล่ขึ้นแล้วได้ที่พึ่ง ๑ บางคนโผล่ขึ้นมาได้แล้ว
เป็นพราหมณ์ข้ามถึงฝั่งอยู่บนบก ๑ ดูกรภิกษุทั้งหลาย ก็บุคคลที่จมลงแล้วคราวเดียวก็เป็นอันจม
อยู่นั่นเองอย่างไร บุคคลบางคนในโลกนี้ เป็นผู้ประกอบด้วยอกุศลธรรมฝ่ายดำโดยส่วนเดียว
ดูกรภิกษุทั้งหลาย บุคคลที่จมลงแล้วคราวเดียวก็เป็นอันจมอยู่นั่นเองอย่างนี้แล ฯ
ดูกรภิกษุทั้งหลาย ก็บุคคลที่โผล่ขึ้นมาได้กลับจมลงไปอย่างไร บุคคลบางคนในโลกนี้
โผล่ขึ้นมาได้ คือเขามีธรรม คือ ศรัทธา หิริ โอตตัปปะวิริยะ ปัญญาชั้นดีๆ ในกุศลธรรม
ทั้งหลาย แต่ศรัทธาของเขานั้นไม่คงที่ ไม่เจริญขึ้น เสื่อมไปฝ่ายเดียว หิริ โอตตัปปะ วิริยะ
ปัญญาของเขานั้น ไม่คงที่ไม่เจริญขึ้น เสื่อมไปฝ่ายเดียว ดูกรภิกษุทั้งหลาย บุคคลที่โผล่ขึ้น
มาแล้วกลับจมลงอย่างนี้แล ฯ
ดูกรภิกษุทั้งหลาย ก็บุคคลที่โผล่ขึ้นมาแล้วทรงตัวอยู่อย่างไร บุคคลบางคนในโลกนี้
โผล่ขึ้นมาได้ คือ เขามีธรรมเหล่านี้ คือ ศรัทธา หิริโอตตัปปะ วิริยะ ปัญญาชั้นดีๆ ในกุศล
ธรรมทั้งหลาย แต่ศรัทธาของเขานั้นไม่เสื่อมลง ไม่เจริญขึ้น คงที่อยู่ หิริ โอตตัปปะ วิริยะ
และปัญญาของเขานั้นไม่เสื่อมลง ไม่เจริญขึ้น คงที่อยู่ ดูกรภิกษุทั้งหลาย บุคคลที่โผล่ขึ้นมาได้
แล้วทรงตัวอยู่อย่างนี้แล ฯ
ดูกรภิกษุทั้งหลาย ก็บุคคลที่โผล่ขึ้นมาได้แล้วเหลียวไปมาอย่างไร บุคคลบางคนใน
โลกนี้ โผล่ขึ้นมาได้ คือ เขามีธรรมเหล่านี้ คือ ศรัทธา หิริโอตตัปปะ วิริยะ ปัญญา
ชั้นดีๆ ในกุศลธรรมทั้งหลาย เพราะสังโยชน์ ๓ สิ้นไปเขาเป็นพระโสดาบัน มีอันไม่ตกต่ำเป็น
ธรรมดา เป็นผู้เที่ยงที่จะตรัสรู้ในเบื้องหน้าดูกรภิกษุทั้งหลาย บุคคลที่โผล่ขึ้นมาได้แล้วเหลียว
ไปมาอย่างนี้แล ฯ
ดูกรภิกษุทั้งหลาย ก็บุคคลที่โผล่ขึ้นมาได้แล้วเตรียมตัวจะข้ามอย่างไร บุคคลบางคน
ในโลกนี้ โผล่ขึ้นมาได้ คือ เขามีธรรมเหล่านี้ คือ ศรัทธา หิริโอตตัปปะ วิริยะ ปัญญา