พระสุตตันตปิฎกไทย: 23/113/82 83 84 85
สุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย สัตตก-อัฏฐก-นวกนิบาต
(ตัดสินทำนองกลบหญ้า คือ ทำการประนีประนอม) ๑ ดูกรภิกษุทั้งหลาย ธรรมสำหรับระงับ
อธิกรณ์ ๗ ประการนี้แล เพื่อสงบระงับอธิกรณ์ที่เกิดแล้วๆ ฯ
จบวินัยวรรคที่ ๓
พระสูตรที่ไม่สงเคราะห์เข้าในวรรค
[๘๒] ดูกรภิกษุทั้งหลาย ชื่อว่าเป็นภิกษุ เพราะทำลายธรรม ๗ ประการธรรม ๗
ประการเป็นไฉน คือ สักกายทิฏฐิ ๑ วิจิกิจฉา ๑ สีลัพพตปรามาส ๑ ราคะ ๑ โทสะ ๑
โมหะ ๑ มานะ ๑ ดูกรภิกษุทั้งหลาย ชื่อว่าเป็นภิกษุเพราะทำลายธรรม ๗ ประการนี้แล
[๘๓] ดูกรภิกษุทั้งหลาย ชื่อว่าเป็นสมณะ เพราะสงบธรรม ๗ ประการ ชื่อว่าเป็น
พราหมณ์ เพราะลอยธรรม ๗ ประการ ชื่อว่าเป็นโสตถิกะ (สวัสดี) เพราะเป็นผู้ไม่ร้อยรัดธรรม ๗
ประการ ชื่อว่าเป็นนหาตกะ เพราะอาบธรรม ๗ประการ ชื่อว่าเป็นเวทคู เพราะรู้ชัดธรรม ๗
ประการ ชื่อว่าเป็นอรหันต์ เพราะเป็นผู้ไกลธรรม ๗ ประการ ธรรม ๗ ประการเป็นไฉน
คือ สักกายทิฏฐิ ๑วิจิกิจฉา ๑ สีลัพพตปรามาส ๑ ราคะ ๑ โทสะ ๑ โมหะ ๑ มานะ ๑
ดูกรภิกษุทั้งหลาย ชื่อว่าเป็นอรหันต์ เพราะเป็นผู้ไกลธรรม ๗ ประการนี้แล ฯ
[๘๔] ดูกรภิกษุทั้งหลาย อสัทธรรม ๗ ประการนี้ ๗ ประการเป็นไฉน คือ อสัตบุรุษ
เป็นผู้ไม่มีศรัทธา ๑ ไม่มีหิริ ๑ ไม่มีโอตตัปปะ ๑ มีสุตะน้อย ๑เป็นผู้เกียจคร้าน ๑ มีสติ
หลงลืม ๑ มีปัญญาทราม ๑ ดูกรภิกษุทั้งหลายอสัทธรรม ๗ ประการนี้แล ดูกรภิกษุทั้งหลาย
สัทธรรม ๗ ประการนี้ ๗ ประการเป็นไฉน คือ สัตบุรุษเป็นผู้มีศรัทธา ๑ มีหิริ ๑ มีโอตตัปปะ ๑
เป็นพหูสูต ๑ปรารภความเพียร ๑ มีสติ ๑ มีปัญญา ๑ ดูกรภิกษุทั้งหลาย สัทธรรม ๗ ประการ
นี้แล ฯ
[๘๕] ดูกรภิกษุทั้งหลาย บุคคล ๗ จำพวกนี้ เป็นผู้ควรของคำนับ เป็นผู้ควรของ
ต้อนรับ เป็นผู้ควรของทำบุญ เป็นผู้ควรกระทำอัญชลี เป็นนาบุญของโลก ไม่มีนาบุญอื่นยิ่งกว่า
๗ จำพวกเป็นไฉน ดูกรภิกษุทั้งหลาย บุคคลบางคนในโลกนี้ พิจารณาเห็นว่าไม่เที่ยง มีความ