พระสุตตันตปิฎกไทย: 32/122/62

สุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย อปทาน ภาค ๑
เล่ม 32
หน้า 122
โดยกำเนิด ได้บรรลุอรหัต คุณวิเศษเหล่านี้ คือ ปฏิสัมภิทา ๔ วิโมกข์ ๘ และอภิญญา ๖ เราได้ทำให้แจ้งชัดแล้ว พระพุทธศาสนาเราได้ทำ เสร็จแล้ว ดังนี้. ทราบว่า ท่านพระปทุมเถระได้กล่าวคาถาเหล่านี้ ด้วยประการฉะนี้แล. จบปทุมเถราปทาน. อสนโพธิยเถราปทานที่ ๑๐ (๖๐) ว่าด้วยผลแห่งการปลูกไม้โพธิ์
[๖๒] เรามีอายุ ๗ ปีโดยกำเนิด ได้พบพระผู้มีพระภาคผู้เป็นนายกของโลก เรา มีจิตเลื่อมใส มีใจโสมนัส ได้เข้าไปเฝ้าพระองค์ผู้สูงสุดกว่านรชน เรา ร่าเริง มีจิตโสมนัสได้ปลูกไม้โพธิ์อันอุดม ถวายแด่พระผู้มีพระภาคพระ นามว่าดิสสะเชษฐบุรุษของโลก ผู้คงที่ ต้นไม้อันงอกขึ้นบนแผ่นดิน โดยนามบัญญัติชื่อว่าอสนะ (ประดู่) เราบำรุงโพธิ์ชื่ออสนะอันอุดมนี้อยู่ ๕ ปี จึงได้เห็นต้นไม้มีดอกบานน่าอัศจรรย์ เป็นเหตุให้ขนพองสยอง เกล้า เมื่อจะประกาศกรรมของตน จึงเข้าไปเฝ้าพระพุทธเจ้าผู้ประเสริฐสุด เวลานั้น องค์พระสัมพุทธเจ้าพระนามว่าติสสะเป็นสยัมภูอัครบุคคล ประ ทับนั่งในท่ามกลางภิกษุสงฆ์ แล้วได้ตรัสพระคาถาเหล่านี้ว่า ผู้ใดปลูกต้น โพธิ์นี้ และกระทำพุทธบูชาโดยเคารพ เราจักพยากรณ์ผู้นั้น ท่าน ทั้งหลายจงฟังเรากล่าว ผู้นั้นจักได้เสวยเทวรัชสมบัติในเทวดาทั้งหลาย ตลอด ๓๐ กัลป และจักได้เป็นพระเจ้าจักรพรรดิ ๖๔ ครั้ง เคลื่อนจาก ดุสิตภพแล้ว อันกุศลมูลตักเตือน เสวยสมบัติทั้งสองแล้ว จักรื่นรมย์ อยู่ในความเป็นมนุษย์ ผู้นั้นมีใจแน่วแน่เพื่อความเพียร สงบระงับ ไม่มี อุปธิ กำหนดรู้อาสวะทั้งปวงแล้ว จักไม่มีอาสวะนิพพาน เราประกอบ วิเวกเนืองๆ เป็นผู้สงบระงับ ไม่มีอุปธิ ตัดเครื่องผูกดังช้างทำลายปลอก แล้ว ไม่มีอาสวะอยู่ ในกัลปที่ ๙๒ แต่กัลปนี้ เราได้ปลูกต้นโพธิ์ในเวลา