พระสุตตันตปิฎกไทย: 22/124/116
สุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย ปัญจก-ฉักกนิบาต
ตระหนี่ลาภ ๑ ตระหนี่วรรณะ ๑ ตระหนี่ธรรม ๑ ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุณีผู้ประกอบด้วย
ธรรม ๕ ประการนี้แล เหมือนถูกนำมาไว้ในนรก ฯ
ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุณีผู้ประกอบด้วยธรรม ๕ ประการ เหมือนเชิญมาอยู่ใน
สวรรค์ ธรรม ๕ ประการเป็นไฉน คือ ภิกษุณีย่อมไม่เป็นผู้ตระหนี่ที่อยู่ ๑ไม่ตระหนี่สกุล
๑ ไม่ตระหนี่ลาภ ๑ ไม่ตระหนี่วรรณะ ๑ ไม่ตระหนี่ธรรม ๑ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุณีผู้
ประกอบด้วยธรรม ๕ ประการนี้แล เหมือนเชิญมาอยู่ในสวรรค์
จบสูตรที่ ๕
๖. วรรณนาสูตร
[๑๑๖] ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุณีผู้ประกอบด้วยธรรม ๕ ประการเหมือนถูกนำมาไว้
ในนรก ธรรม ๕ ประการเป็นไฉน คือภิกษุณีไม่ใคร่ครวญให้ตระหนักแน่ก่อนแล้ว
สรรเสริญผู้ไม่ควรสรรเสริญ ๑ ไม่ใคร่ครวญให้ตระหนักแน่ก่อนแล้ว ติเตียนผู้ควรสรรเสริญ ๑
ไม่ใคร่ครวญให้ตระหนักแน่ก่อนแล้วเข้าไปกำจัดความเลื่อมใสในฐานะอันไม่เป็นที่ตั้งแห่ง
ความเลื่อมใส ๑ ไม่ใคร่ครวญให้ตระหนักแน่ก่อนแล้ว เข้าไปกำจัดความไม่เลื่อมใสในฐานะ
อันเป็นที่ตั้งแห่งความเลื่อมใส ๑ ทำสัทธาไทยให้ตกไป ๑ ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุณีผู้ประกอบ
ด้วยธรรม ๕ ประการนี้แล เหมือนถูกนำมาไว้ในนรก ฯ
ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุณีผู้ประกอบด้วยธรรม ๕ ประการ เหมือนเชิญมาอยู่ใน
สวรรค์ ธรรม ๕ ประการเป็นไฉน คือ ภิกษุณีใคร่ครวญให้ตระหนักแน่ก่อนแล้ว ติเตียน
ผู้ที่ควรติเตียน ๑ ใคร่ครวญให้ตระหนักแน่ก่อนแล้ว สรรเสริญผู้ที่ควรสรรเสริญ ๑ ใคร่ครวญ
ให้ตระหนักแน่ก่อนแล้ว เข้าไปกำจัดความไม่เลื่อมใสในฐานะอันไม่เป็นที่ตั้งแห่งความเลื่อมใส ๑
ใคร่ครวญให้ตระหนักแน่ก่อนแล้ว เข้าไปกำจัดความเลื่อมใสในฐานะอันเป็นที่ตั้งแห่งความ
เลื่อมใส ๑ไม่ทำสัทธาไทยให้ตกไป ๑ ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุณีผู้ประกอบด้วยธรรม ๕
ประการนี้แล เหมือนเชิญมาอยู่ในสวรรค์ ฯ
จบสูตรที่ ๖