พระสุตตันตปิฎกไทย: 32/124/63 64
สุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย อปทาน ภาค ๑
สกจิตตนิยวรรคที่ ๗
สกจิตตนิยเถราปทานที่ ๑ (๖๑)
ว่าด้วยผลแห่งการถวายสถูป
[๖๓] เราได้เห็นป่าชัฏใหญ่สงัดเสียง ปราศจากอันตราย เป็นที่อยู่อาศัยของ
พวกฤาษี ดังกับจะรับเครื่องบูชา เราจึงเอาไม้ไผ่มาทำเป็นสถูป แล้ว
เกลี่ย (โปรย) ดอกไม้ต่างๆ ได้ไหว้พระสถูป ดุจถวายบังคมพระสัม
พุทธเจ้า ซึ่งยังทรงพระชนม์อยู่เฉพาะพระพักตร์ เราได้เป็นพระราชา
สมบูรณ์ด้วยรัตนะ ๗ ประการ เป็นใหญ่ในแว่นแคว้นปรารภด้วยกรรม
ของตน นี้เป็นผลแห่งการบูชาด้วยดอกไม้ ในกัลปที่ ๙๑ แต่กัลปนี้
เราโปรยดอกไม้ใด ด้วยกรรมนั้นเราไม่รู้จักทุคติเลย นี้เป็นผลแห่ง
พุทธบูชา ในกัลปที่ ๘๐ เราได้เป็นพระเจ้าจักรพรรดิ มียศอนันต์
สมบูรณ์ด้วยแก้ว ๗ ประการ เป็นใหญ่ในทวีปทั้ง ๔ คุณวิเศษเหล่านี้
คือ ปฏิสัมภิทา ๔ วิโมกข์ ๘ และอภิญญา ๖ เราทำให้แจ้งชัดแล้ว
พระพุทธศาสนาเราได้ทำเสร็จแล้ว ดังนี้.
ทราบว่า ท่านพระสกจิตตนิยเถระได้กล่าวคาถาเหล่านี้ ด้วยประการฉะนี้แล.
จบ สกจิตตนิยเถราปทาน.
อาโปปุปผิยเถราปทานที่ ๒ (๖๒)
ว่าด้วยผลแห่งการโปรยดอกไม้บูชา
[๖๔] พระผู้มีพระภาคพระนามว่าสิขี เสด็จออกจากวิหาร แล้วขึ้นที่จงกรม ทรง
ประกาศสัจจะ ๔ ทรงแสดงอมฤตบท ณ ที่จงกรมนั้น ข้าพระองค์รู้
(ได้ฟัง) พระสุรเสียงของพระพุทธเจ้าผู้ประเสริฐสุดพระนามว่าสิขี ผู้คงที่
แล้ว จับดอกไม้ต่างๆ โยนขึ้นไปในอากาศ ข้าแต่พระองค์ผู้เป็นจอมสัตว์
เชษฐบุรุษของโลกผู้นราสภ ด้วยกรรมนั้น ข้าพระองค์ผู้ละความชนะและ