พระสุตตันตปิฎกไทย: 16/126/305 306 307 308
สุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย นิทานวรรค
สมณพราหมณวรรคที่ ๘
[๓๐๕] ข้าพเจ้าได้สดับมาอย่างนี้
สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคประทับอยู่ ณ พระเชตวัน อารามของท่านอนาถบิณฑิกเศรษฐี
เขตพระนครสาวัตถี ฯ
[๓๐๖] ณ ที่นั้นแล พระผู้มีพระภาคตรัสเรียกภิกษุทั้งหลายมาแล้วตรัสว่า ดูกรภิกษุ
ทั้งหลาย ก็สมณะหรือพราหมณ์เหล่าใดเหล่าหนึ่ง ไม่รู้ชราและมรณะไม่รู้เหตุเกิดชราและมรณะ
ไม่รู้ความดับชราและมรณะ ไม่รู้ปฏิปทาอันให้ถึงความดับชราและมรณะ สมณะหรือพราหมณ์
เหล่านั้น ย่อมไม่ได้รับสมมติว่าเป็นสมณะในหมู่สมณะ หรือไม่ได้รับสมมติว่าเป็นพราหมณ์
ในหมู่พราหมณ์ อนึ่งท่านผู้มีอายุเหล่านั้นจะทำให้แจ้ง ซึ่งประโยชน์แห่งความเป็นสมณะหรือ
ประโยชน์แห่งความเป็นพราหมณ์ ด้วยปัญญาอันรู้ยิ่งด้วยตนเองในปัจจุบันเข้าถึงอยู่ไม่ได้ ฯ
[๓๐๗] ดูกรภิกษุทั้งหลาย ส่วนสมณะก็ดี หรือพราหมณ์ก็ดี เหล่าใดเหล่าหนึ่ง ย่อม
รู้ชราและมรณะ ย่อมรู้เหตุเกิดชราและมรณะ ย่อมรู้ความดับชราและมรณะ ย่อมรู้ปฏิปทาอัน
ให้ถึงความดับชราและมรณะ สมณะหรือพราหมณ์เหล่านั้น ย่อมได้รับสมมติว่าเป็นสมณะในหมู่
สมณะ ย่อมได้รับสมมติว่าเป็นพราหมณ์ในหมู่พราหมณ์ อนึ่ง ท่านเหล่านั้นย่อมกระทำให้แจ้ง
ซึ่งประโยชน์แห่งความเป็นสมณะ และประโยชน์แห่งความเป็นพราหมณ์ ด้วยปัญญาอันรู้ยิ่งด้วย
ตนเอง ในปัจจุบันเข้าถึงได้อยู่
จบสูตรที่ ๑
[๓๐๘] สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคประทับอยู่ ณ พระเชตวัน อารามของท่านอนาถ
บิณฑิกเศรษฐี เขตพระนครสาวัตถี ณ ที่นั้นแล พระผู้มีพระภาคตรัสเรียกภิกษุทั้งหลายมาแล้ว
ตรัสว่า ดูกรภิกษุทั้งหลาย สมณะหรือพราหมณ์เหล่าใดเหล่าหนึ่งไม่รู้ชาติ ฯลฯ ไม่รู้ภพ ... ไม่
รู้อุปาทาน ... ไม่รู้ตัณหา ...ไม่รู้เวทนา ... ไม่รู้ผัสสะ ... ไม่รู้สฬายตนะ ... ไม่รู้นามรูป ... ไม่รู้
วิญญาณ ...ไม่รู้สังขาร ... ไม่รู้เหตุเกิดสังขาร ไม่รู้ความดับสังขาร ไม่รู้ปฏิปทาอันให้ถึงความ