พระสุตตันตปิฎกไทย: 24/127/76
สุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย ทสก-เอกาทสกนิบาต
นี้แล ไม่พึงมีในโลกพระตถาคตอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าไม่พึงบังเกิดในโลก ธรรมวินัยอัน
พระตถาคตทรงประกาศไว้แล้วไม่พึงรุ่งเรืองในโลก ดูกรภิกษุทั้งหลาย ก็เพราะธรรม๓ ประการนี้
มีอยู่ในโลก ฉะนั้น พระตถาคตอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าจึงบังเกิดในโลก ธรรมวินัยที่พระตถาคต
ทรงประกาศไว้จึงรุ่งเรืองในโลก ดูกรภิกษุทั้งหลายบุคคลไม่ละธรรม ๓ ประการแล้ว ก็ไม่อาจละ
ชาติ ชรา มรณะได้ ๓ ประการเป็นไฉน คือ ราคะ ๑ โทสะ ๑ โมหะ ๑ ดูกรภิกษุทั้งหลาย
บุคคลไม่ละธรรม ๓ ประการนี้แล้ว ก็ไม่อาจละชาติ ชรา มรณะได้ ดูกรภิกษุทั้งหลาย
บุคคลไม่ละธรรม ๓ ประการแล้ว ก็ไม่อาจละราคะ โทสะ โมหะได้ ๓ ประการเป็นไฉน คือ
สักกายทิฏฐิ ๑ วิจิกิจฉา ๑ สีลัพพตปรามาส ๑ ดูกรภิกษุทั้งหลายบุคคลไม่ละธรรม ๓ ประการ
นี้แล้ว ก็ไม่อาจละราคะ โทสะ โมหะได้ดูกรภิกษุทั้งหลาย บุคคลไม่ละธรรม ๓ ประการแล้ว
ก็ไม่อาจละสักกายทิฏฐิวิจิกิจฉา สีลัพพตปรามาสได้ ๓ ประการเป็นไฉน คือ การกระทำไว้
ในใจโดยอุบายไม่แยบคาย ๑ การเสพทางผิด ๑ ความหดหู่แห่งจิต ๑ ดูกรภิกษุทั้งหลาย
บุคคลไม่ละธรรม ๓ ประการนี้แล ก็ไม่อาจละสักกายทิฏฐิ วิจิกิจฉา สีลัพพตปรามาสได้
ดูกรภิกษุทั้งหลาย บุคคลไม่ละธรรม ๓ ประการแล้ว ก็ไม่อาจละการกระทำไว้ในใจโดยอุบายไม่
แยบคาย การเสพทางผิดความหดหู่แห่งจิตได้๓ ประการเป็นไฉน คือ ความเป็นผู้มีสติหลงลืม ๑
ความไม่มีสัมปชัญญะ ๑ความฟุ้งซ่านแห่งจิต ๑ ดูกรภิกษุทั้งหลาย บุคคลไม่ละธรรม ๓ ประการ
นี้แล้วก็ไม่อาจละการกระทำไว้ในใจโดยอุบายไม่แยบคาย การเสพทางผิด ความหดหู่แห่งจิตได้
ดูกรภิกษุทั้งหลาย บุคคลไม่ละธรรม ๓ ประการแล้ว ก็ไม่อาจละความเป็นผู้มีสติหลงลืม ความ
ไม่มีสัมปชัญญะความฟุ้งซ่านแห่งจิตได้ ๓ ประการเป็นไฉน คือ ความเป็นผู้ไม่ใคร่เห็นพระ
อริยะ ๑ ความเป็นผู้ไม่ใคร่ฟังธรรมของพระอริยะ ๑ ความเป็นผู้มีจิตคิดแข่งดี ๑ ดูกรภิกษุ
ทั้งหลาย บุคคลไม่ละธรรม ๓ ประการนี้แล้ว ก็ไม่อาจละความเป็นผู้มีสติหลงลืม ความไม่มี
สัมปชัญญะ ความฟุ้งซ่านแห่งจิตได้ ดูกรภิกษุทั้งหลาย บุคคลไม่ละธรรม๓ ประการแล้ว
ก็ไม่อาจละความเป็นผู้ไม่ใคร่เห็นพระอริยะ ความเป็นผู้ไม่ใคร่ฟังธรรมของพระอริยะ ความเป็น
ผู้มีจิตคิดแข่งดีได้ ๓ ประการเป็นไฉน คือความฟุ้งซ่าน ๑ ความไม่สำรวม ๑ ความทุศีล ๑
ดูกรภิกษุทั้งหลาย บุคคลไม่ละธรรม ๓ ประการนี้แล้ว ก็ไม่อาจละความเป็นผู้ไม่ใคร่เห็นพระอริยะ