พระสุตตันตปิฎกไทย: 11/129/156 157

สุตตันตปิฎก ทีฆนิกาย ปาฏิกวรรค
เล่ม 11
หน้า 129
สุข ทั้ง ๒ ประการ ดังนี้ทั้งหวังความมั่งมีและความสำเร็จ พระมหา บุรุษนั้นมีส่วนพระกายข้างหน้าดำรงอยู่เป็นอันดี ดังว่ากึ่งกายข้างหน้า แห่งราชสีห์และมีพระศอกลมเสมอกัน ทั้งมีระหว่างพระปฤษฎางค์เต็มดี ลักษณะทั้ง ๓ นี้เป็นบุพพนิมิต ไม่เสื่อมปรากฏอยู่ เพราะกรรมที่ พระมหาบุรุษประพฤติดีแล้ว ทำแล้วในกาลก่อน พระมหาบุรุษแม้ ดำรงอยู่ในคิหิวิสัย ย่อมทรงเจริญด้วยข้าวเปลือกทรัพย์ บุตร ภรรยา สัตว์สองเท้าและสัตว์สี่เท้า ถ้าทรงตัดกังวลเสีย ทรงผนวช ย่อมทรง บรรลุพระสัมโพธิญาณอันประเสริฐ มีความไม่เสื่อมเป็นธรรมดา ฯ
[๑๕๖] ดูกรภิกษุทั้งหลาย ตถาคตเคยเป็นมนุษย์ในชาติก่อน ภพก่อนกำเนิดก่อน เป็นผู้ไม่เบียดเบียนสัตว์ทั้งหลายด้วยฝ่ามือ ก้อนดิน ท่อนไม้ หรือศัสตรา ตถาคตย่อมเข้าถึง สุคติโลกสวรรค์เบื้องหน้าแต่ตายเพราะกายแตก เพราะกรรมนั้น อันตนทำ สั่งสม พอกพูน ไพบูลย์ ฯลฯ ครั้นจุติจากสวรรค์นั้นแล้วมาสู่ความเป็นอย่างนี้ ย่อมได้เฉพาะซึ่งมหาปุริส ลักษณะนี้ คือ มีเส้นประสาทสำหรับนำรสอาหารอันเลิศ กล่าวคือ พระมหาบุรุษนั้นมีเส้น ประสาท มีปลายในเบื้องบนประชุมอยู่ที่ลำพระศอ สำหรับนำรสอาหารแผ่ซ่านไปสม่ำเสมอ ทั่วพระกาย พระองค์สมบูรณ์ด้วยลักษณะนั้น ถ้าอยู่ครองเรือนจะได้เป็นพระเจ้าจักรพรรดิฯลฯ เมื่อเป็นพระราชาจะได้อะไร เมื่อเป็นพระราชาจะได้รับผลข้อนี้ คือ มีพระโรคาพาธน้อย สมบูรณ์ด้วยพระเตโชธาตุอันยังอาหารให้ย่อยดีไม่เย็นนัก ไม่ร้อนนัก ถ้าออกจากเรือนผนวช เป็นบรรพชิต จะได้เป็นพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า มีหลังคาคือกิเลสอันเปิดแล้วในโลก เมื่อเป็นพระพุทธเจ้าจะได้อะไร เมื่อเป็นพระพุทธเจ้าจะได้รับผลข้อนี้ คือ มีพระโรคาพาธน้อย มีความลำบากน้อย สมบูรณ์ด้วยพระเตโชธาตุอันยังอาหารให้ย่อยดี ไม่เย็นนัก ไม่ร้อนนัก อันควรแก่พระปธานเป็นปานกลาง พระผู้มีพระภาคตรัสเนื้อความนี้ไว้ พระโบราณกเถระทั้งหลาย จึงกล่าวคาถาประพันธ์นี้ในพระลักษณะเหล่านั้นว่า
[๑๕๗] พระมหาบุรุษไม่เบียดเบียน ไม่ย่ำยีสัตว์ด้วยฝ่ามือ ด้วยท่อนไม้ ด้วย ก้อนดิน ด้วยศัสตรา ด้วยอันให้ตายเองและอันบังคับให้ฆ่า ด้วยอัน จำจอง หรือด้วยอันให้หวาดกลัว เพราะกรรมนั้น นั่นแหละ พระ