พระสุตตันตปิฎกไทย: 11/130/158 159
สุตตันตปิฎก ทีฆนิกาย ปาฏิกวรรค
มหาบุรุษไปจากมนุษยโลกจึงบันเทิงใจในสุคติทั้งหลาย และเพราะทำ
กรรมมีผลเป็นสุขจึงได้สุขมาก และมีเส้นประสาทสำหรับนำรสอาหาร
เพราะฉะนั้น พวกพราหมณ์ผู้ฉลาดมีปัญญาอันเห็นแจ่มแจ้งจึงทำนายว่า
พระราชกุมารนี้จักมีความสุขมาก ลักษณะนั้นย่อมส่องอรรถนั้น
สำหรับพระราชกุมารผู้ยังดำรงอยู่ในคิหิวิสัยหรือผู้ทรงผนวช ฯ
[๑๕๘] ดูกรภิกษุทั้งหลาย ตถาคตเคยเป็นมนุษย์ในชาติก่อน ภพก่อนกำเนิดก่อน
ไม่ถลึงตาดู ไม่ค้อนตาดู ไม่ชำเลืองตาดู
[พหุชน ด้วยอำนาจความโกรธ] เป็นผู้ตรง มีใจตรง
เป็นปรกติแลดูตรงๆ และแลดูพหุชนด้วยปิยจักษุตถาคตย่อมเข้าถึงสุคติโลกสวรรค์
เบื้องหน้าแต่ตายเพราะกายแตก เพราะกรรมนั้น อันตนทำ สั่งสม พอกพูน ไพบูลย์ ฯลฯ
ครั้นจุติจากสวรรค์นั้นแล้ว มาสู่ความเป็นอย่างนี้ ย่อมได้เฉพาะซึ่งมหาปุริสลักษณะ ๒ ประการ
เหล่านี้ คือ มีพระเนตรสีดำสนิท ๑ มีดวงพระเนตรดังว่าตาแห่งโค ๑ พระมหาบุรุษสมบูรณ์
ด้วยลักษณะ ๒ ประการนั้น ถ้าอยู่ครองเรือนจะได้เป็นพระเจ้าจักรพรรดิ ฯลฯเมื่อเป็นพระราชา
จะได้อะไร เมื่อเป็นพระราชาจะได้รับผลข้อนี้ คือ เป็นผู้อันชนเป็นอันมากเห็นแล้วรัก เป็นที่
รักใคร่พอใจแห่งพราหมณ์และคฤหบดี แห่งชาวนิคม และชาวชนบท แห่งโหราจารย์และ
มหาอำมาตย์ แห่งกองทหาร แห่งนายประตู แห่งอำมาตย์ แห่งบริษัท แห่งพวกเจ้า
แห่งเศรษฐี แห่งพระราชกุมารถ้าพระมหาบุรุษนั้นออกจากเรือนผนวชเป็นบรรพชิต จะได้
เป็นพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า มีหลังคาคือกิเลสอันเปิดแล้วในโลก เมื่อเป็นพระพุทธเจ้า
จะได้อะไรเมื่อเป็นพระพุทธเจ้าจะได้รับผลข้อนี้ คือ เป็นผู้ที่ชนเป็นอันมากเห็นแล้วรัก เป็นที่
รักใคร่พอใจแห่งภิกษุ ภิกษุณี อุบาสก อุบาสิกา เทวดา มนุษย์ อสูร นาคและคนธรรพ์
พระผู้มีพระภาคตรัสเนื้อความนี้ไว้ พระโบราณกเถระทั้งหลายจึงกล่าวคาถาประพันธ์นี้ในพระ
ลักษณะเหล่านั้นว่า
[๑๕๙] พระมหาบุรุษ ไม่ถลึงตาดู ไม่ค้อนตาดู ไม่ชำเลืองดู
[พหุชนด้วยอำนาจ
ความโกรธ] เป็นผู้ตรง มีใจตรงเป็นปรกติ แลดูพหุชนด้วยปิยจักษุ
พระองค์เสวยวิบากอันเป็นผล บันเทิงอยู่ในสุคติทั้งหลาย มาในโลกนี้
มีดวงพระเนตรดังว่าตาแห่งโคและมีพระนัยนาคือพระเนตรมีสีดำสนิท
มีการเห็นแจ่มใส พวกมนุษย์ผู้ประกอบในลักษณศาสตร์ มีความ