พระสุตตันตปิฎกไทย: 32/130/71 72

สุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย อปทาน ภาค ๑
เล่ม 32
หน้า 130
สมุนเถราปทานที่ ๙ (๖๙) ว่าด้วยผลแห่งการถวายดอกมะลิ
[๗๑] ในกาลนั้น เราเป็นนายมาลาการมีนามชื่อว่าสุมนะ ได้เห็นพระพุทธเจ้า ผู้ปราศจากธุลี ทรงสมควรรับเครื่องบูชาของโลก จึงเอามือทั้งสองประคอง ดอกมะลิที่บานดีบูชาแด่พระพุทธเจ้าพระนามว่าสิขี ผู้เป็นเผ่าพันธุ์ของโลก ด้วยการบูชาดอกไม้นี้ และด้วยการตั้งจิตไว้ เราไม่รู้จักทุคติเลย นี้เป็น ผลแห่งพุทธบูชา ในกัลปที่ ๓๑ แต่กัลปนี้ เราบูชาพระพุทธเจ้าด้วย ดอกไม้ใด ด้วยการบูชานั้น เราไม่รู้จักทุคติเลย นี้เป็นผลแห่งพุทธบูชา ในกัลปที่ ๒๖ แต่กัลปนี้ ได้มีพระเจ้าจักรพรรดิ ๔ พระองค์ ผู้มีพระยศ มาก ทรงสมบูรณ์ด้วยแก้ว ๗ ประการ คุณวิเศษเหล่านี้ คือ ปฏิสัมภิทา ๔ วิโมกข์ ๘ และอภิญญา ๖ เราได้ทำแจ้งชัดแล้ว พระพุทธศาสนา เราได้ทำเสร็จแล้ว ดังนี้. ทราบว่า ท่านพระสุมนเถระได้กล่าวคาถาเหล่านี้ ด้วยประการฉะนี้แล. จบ สุมนเถราปทาน. ปุปผจังโกฏิยเถราปทานที่ ๑๐ (๗๐) ว่าด้วยผลแห่งการถวายผอบดอกอังกาบ
[๗๒] ข้าพระองค์เอาดอกอังกาบอันบานดี ใส่ในผอบจนเต็มแล้ว ได้บูชาพระ พุทธเจ้าพระนามว่าสิขีผู้ประเสริฐสุด ผู้ไม่ทรงครั้นคร้ามดังสีหะ เหมือน พระยาครุฑ งามประเสริฐดุจพระยาเสือโคร่ง มีพระชาติดีเหมือนไกรสร ราชสีห์ เป็นสรณะของโลกสาม ผู้ไม่หวั่นไหว ไม่ทรงแพ้อะไรๆ ผู้ เลิศกว่าบรรดาผู้ฆ่ากิเลส ประทับนั่งแวดล้อมด้วยภิกษุสงฆ์ พร้อมทั้งผอบ ใหญ่ ข้าแต่พระองค์ผู้จอมสัตว์ ผู้นราสภ ด้วยจิตอันเลื่อมใสนั้น ข้า พระองค์เป็นผู้ละความชนะและแพ้แล้ว บรรลุถึงฐานะอันไม่หวั่นไหว ใน