พระสุตตันตปิฎกไทย: 18/131/219

สุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย สฬายตนวรรค
เล่ม 18
หน้า 131
ย่อมอยู่เป็นสุข ตถาคตผู้อรหันต์ตรัสรู้เองโดยชอบ รู้แจ้งแล้วซึ่งความเกิดขึ้น ความดับไป คุณ โทษ และอุบายเครื่องสลัดออกแห่งเสียง ... แห่งกลิ่น ... แห่งรส ... แห่งโผฏฐัพพะ ... แห่งธรรมารมณ์ ตามความเป็นจริง ไม่เป็นผู้มีธรรมารมณ์เป็นที่มายินดี ไม่เป็นผู้ยินดีแล้วใน ธรรมารมณ์ ไม่เป็นผู้เพลิดเพลินแล้วในธรรมารมณ์ ดูกรภิกษุทั้งหลาย เพราะธรรมารมณ์ แปรปรวนไป คลายไปและดับไป ตถาคตก็ย่อมอยู่เป็นสุข ฯ จบสูตรที่ ๔ อัคคัยหสูตรที่ ๑
[๒๑๙] ดูกรภิกษุทั้งหลาย สิ่งใดไม่ใช่ของเธอทั้งหลาย เธอทั้งหลายจงละสิ่งนั้นเสีย สิ่งนั้นอันเธอทั้งหลายละได้แล้ว จักเป็นไปเพื่อประโยชน์เกื้อกูล เพื่อความสุข ดูกรภิกษุ ทั้งหลาย อะไรเล่าไม่ใช่ของเธอทั้งหลาย ดูกรภิกษุทั้งหลาย จักษุไม่ใช่ของเธอทั้งหลาย เธอ ทั้งหลายจงละจักษุนั้นเสีย จักษุนั้นอันเธอทั้งหลายละได้แล้ว จักเป็นไปเพื่อประโยชน์เกื้อกูล เพื่อความสุข หู ...จมูก ... ลิ้น ... กาย ...ใจ ไม่ใช่ของเธอทั้งหลาย เธอทั้งหลายจงละใจนั้น เสียใจนั้นอันเธอทั้งหลายละได้แล้ว จักเป็นไปเพื่อประโยชน์เกื้อกูล เพื่อความสุขดูกรภิกษุ ทั้งหลาย ชนพึงนำหญ้า กิ่งไม้และใบไม้ที่มีอยู่ในเชตวันนี้ไป หรือพึงเผาหรือพึงทำตามสมควร แก่เหตุ เธอทั้งหลายพึงมีความคิดอย่างนี้ว่า ชนนำพวกเราไปหรือเผา หรือทำพวกเราตามสมควร แก่เหตุ ดังนี้บ้างหรือหนอ ภิกษุเหล่านั้นกราบทูลว่า หาเป็นดังนั้นไม่ พระเจ้าข้า ฯ พ. ข้อนั้น เพราะเหตุอะไร ภิ. เพราะเหตุว่า หญ้าเป็นต้นนั้นมิได้เป็นตน หรือเป็นของเนื่องด้วยตนของข้าพระ องค์ทั้งหลายเลย พระเจ้าข้า พ. ดูกรภิกษุทั้งหลาย ฉันนั้นเหมือนกันแล จักษุไม่ใช่ของเธอทั้งหลายเธอทั้งหลาย จงละจักษุนั้นเสีย จักษุนั้นอันเธอทั้งหลายละได้แล้ว จักเป็นไปเพื่อประโยชน์เกื้อกูล เพื่อความ สุข หู ... จมูก ... ลิ้น ... กาย ... ใจ ไม่ใช่ของเธอทั้งหลาย เธอทั้งหลายจงละใจนั้นเสีย ใจนั้น อันเธอทั้งหลายละได้แล้ว จักเป็นไปเพื่อประโยชน์เกื้อกูล เพื่อความสุข ฯ จบสูตรที่ ๕