พระสุตตันตปิฎกไทย: 21/133/130
สุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย จตุกกนิบาต
ย่อมมีใจยินดีแม้ด้วยการเห็น ถ้าอานนท์กล่าวธรรมในบริษัทนั้น ภิกษุบริษัทนั้น ย่อมมีใจยินดีแม้
ด้วยคำที่กล่าวนั้น ภิกษุบริษัทนั้นเป็นผู้ไม่อิ่มเลย ถ้าอานนท์เป็นผู้นิ่ง ฯ
ถ้าภิกษุณีบริษัทเข้าไปเพื่อเห็นอานนท์ ... ฯ
ถ้าอุบาสกบริษัทเข้าไปเพื่อเห็นอานนท์ ... ฯ
ถ้าอุบาสิกาบริษัทเข้าไปเพื่อเห็นอานนท์ อุบาสิกาบริษัทนั้นย่อมมีใจยินดีแม้ด้วยการ
เห็น ถ้าอานนท์กล่าวธรรมในบริษัทนั้น อุบาสิกาบริษัทนั้นย่อมมีใจยินดีแม้ด้วยคำที่กล่าวนั้น
อุบาสิกาบริษัทนั้นเป็นผู้ไม่อิ่มเลย ถ้าอานนท์เป็นผู้นิ่งดูกรภิกษุทั้งหลาย ความอัศจรรย์ไม่เคยมี ๔
ประการนี้แล ในเพราะพระอานนท์ ฯ
จบสูตรที่ ๙
อัจฉริยสูตรที่ ๔
[๑๓๐] ดูกรภิกษุทั้งหลาย ความอัศจรรย์ไม่เคยมี ๔ ประการนี้ ในเพราะพระเจ้า
จักรพรรดิ ๔ ประการเป็นไฉน ดูกรภิกษุทั้งหลาย ถ้าขัตติยบริษัทเข้าไปเฝ้าเยี่ยมพระเจ้าจักรพรรดิ
ขัตติยบริษัทนั้นย่อมมีพระทัยยินดีแม้ด้วยการเฝ้าเยี่ยมนั้น ถ้าพระเจ้าจักรพรรดิดำรัสในที่ประชุมนั้น
ขัตติยบริษัทนั้นย่อมมีพระทัยยินดี แม้ด้วยพระดำรัส ขัตติยบริษัทย่อมเป็นผู้ไม่อิ่มเลย ถ้าพระเจ้า
จักรพรรดิทรงนิ่งเสีย ฯ
ถ้าพราหมณ์บริษัทเข้าไปเฝ้าเยี่ยมพระเจ้าจักรพรรดิ ... ฯ
ถ้าคฤหบดีบริษัทเข้าไปเฝ้าเยี่ยมพระเจ้าจักรพรรดิ ... ฯ
ถ้าสมณบริษัทเข้าไปเยี่ยมพระเจ้าจักรพรรดิ สมณบริษัทนั้นย่อมมีใจยินดีแม้ด้วยการเฝ้า
เยี่ยมนั้น ถ้าพระเจ้าจักรพรรดิดำรัสในที่ประชุมนั้น สมณบริษัทนั้นย่อมมีใจยินดีแม้ด้วยพระดำรัส
สมณบริษัทนั้นย่อมเป็นผู้ไม่อิ่มเลย ถ้าพระเจ้าจักรพรรดิทรงนิ่งเสีย ดูกรภิกษุทั้งหลาย ความอัศจรรย์
ไม่เคยมี ๔ ประการนี้แล ในเพราะพระเจ้าจักรพรรดิ ฯ
ดูกรภิกษุทั้งหลาย ความอัศจรรย์ไม่เคยมี ๔ ประการ ในเพราะพระอานนท์ฉันนั้นเหมือนกัน
แล ๔ ประการเป็นไฉน คือ ถ้าภิกษุบริษัทเข้าไปเพื่อเห็น อานนท์ภิกษุบริษัทนั้นย่อมมีใจยินดีแม้
ด้วยการเห็น ถ้าอานนท์กล่าวธรรมในที่ประชุมนั้นภิกษุบริษัทย่อมมีใจยินดีแม้ด้วยคำที่กล่าว ภิกษุ
บริษัทย่อมเป็นผู้ไม่อิ่มเลย ถ้าอานนท์นิ่งอยู่ ฯ