พระสุตตันตปิฎกไทย: 24/134/81 82
สุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย ทสก-เอกาทสกนิบาต
เถรวรรคที่ ๔
วาหุนสูตร
[๘๑] สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคประทับอยู่ที่ฝั่งสระโปกขรณีชื่อคัคคราใกล้จัมปานคร
ครั้งนั้นแล ท่านพระวาหุนะเข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคถึงที่ประทับถวายบังคมแล้วนั่ง ณ ที่ควร
ส่วนข้างหนึ่ง ครั้นแล้ว ได้ทูลถามพระผู้มีพระภาคว่าข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ พระตถาคตสลัด
ออก ปราศจาก หลุดพ้นจากธรรมเท่าไรหนอ จึงเชื่อว่ามีพระทัยปราศจากแดนกิเลสอยู่
พระผู้มีพระภาคตรัสตอบว่าดูกรวาหุนะ พระตถาคตสลัดออก ปราศจาก หลุดพ้นจากธรรม ๑๐
ประการแลจึงชื่อว่ามีพระทัยปราศจากแดนกิเลสอยู่ ๑๐ ประการเป็นไฉน คือ พระตถาคต
สลัดออก ปราศจาก หลุดพ้นจากรูป ๑ จากเวทนา ๑ จากสัญญา ๑ จากสังขาร ๑ จากวิญญาณ ๑
จากชาติ ๑ จากชรา ๑ จากมรณะ ๑ จากทุกข์ ๑จากกิเลส ๑ จึงชื่อว่ามีพระทัยปราศจาก
แดนกิเลสอยู่ ดูกรวาหุนะ พระตถาคตสลัดออก ปราศจาก หลุดพ้นจากธรรม ๑๐ ประการนี้แล
จึงชื่อว่ามีพระทัยปราศจากแดนกิเลสอยู่ เปรียบเหมือนดอกอุบล ดอกปทุม หรือดอกปุณฑริก
ที่เกิดในน้ำ เจริญในน้ำ ขึ้นพ้นแล้วจากน้ำ ไม่เปรอะเปื้อนด้วยน้ำตั้งอยู่ฉะนั้น ฯ
จบสูตรที่ ๑
อานันทสูตร
[๘๒] ครั้งนั้นแล ท่านพระอานนท์เข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคถึงที่ประทับถวายบังคม
แล้วนั่ง ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง ครั้นแล้ว พระผู้มีพระภาคได้ตรัสกะท่านพระอานนท์ว่า ดูกร
อานนท์ ภิกษุเป็นผู้ไม่มีศรัทธา จักถึงความเจริญงอกงามไพบูลย์ในธรรมวินัยนี้ ข้อนี้ไม่เป็น
ฐานะที่จะมีได้ ภิกษุเป็นผู้ทุศีล ... ภิกษุเป็นผู้มีการสดับน้อย ... ภิกษุเป็นผู้ว่ายาก ... ภิกษุเป็น
ผู้มีมิตรชั่ว ... ภิกษุเป็นผู้เกียจคร้าน ... ภิกษุเป็นผู้มีสติเลอะเลือน ... ภิกษุเป็นผู้ไม่สันโดษ ...