พระสุตตันตปิฎกไทย: 25/139/153 154
สุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย ขุททกปาฐ-ธรรมบท-อุทาน-อิติวุตตกะ-สุตตนิบาต
ผู้พ้นแล้วจากเครื่องผูก แม้เทวดา แม้พรหม ก็ย่อมสรรเสริญพระ
อริยบุคคลนั้น ฯ
จบสูตรที่ ๖
๗. ปปัญจขยสูตร
[๑๕๓] ข้าพเจ้าได้สดับมาแล้วอย่างนี้
สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคประทับอยู่ ณ พระวิหารเชตวัน อารามของท่านอนาถบิณฑิก
เศรษฐี ใกล้พระนครสาวัตถี ก็สมัยนั้นแล พระผู้มีพระภาคประทับนั่งพิจารณาการละส่วนสัญญา
อันสหรคตด้วยธรรมเครื่องเนิ่นช้าของพระองค์อยู่ ฯ
ลำดับนั้นแล พระผู้มีพระภาคทรงทราบการละส่วนสัญญาอันสหรคตด้วยธรรมเครื่องเนิ่น
ช้าของพระองค์แล้ว ได้ทรงเปล่งอุทานนี้ในเวลานั้นว่า
ผู้ใดไม่มีกิเลสเครื่องให้เนิ่นช้าและความตั้งอยู่ (ในสงสาร)ก้าวล่วงซึ่ง
ที่ต่อ คือ ตัณหาทิฐิ และลิ่ม คือ อวิชชาได้ แม้สัตว์โลกพร้อมทั้ง
เทวโลกย่อมไม่ดูหมิ่นผู้นั้น ผู้ไม่มีตัณหาเป็นมุนี เที่ยวไปอยู่ ฯ
จบสูตรที่ ๗
๘. มหากัจจานสูตร
[๑๕๔] ข้าพเจ้าได้สดับมาแล้วอย่างนี้
สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคประทับอยู่ ณ พระวิหารเชตวัน อารามของท่านอนาถบิณฑิก
เศรษฐี ใกล้พระนครสาวัตถี ก็สมัยนั้นแล ท่านพระมหากัจจานะนั่งคู้บัลลังก์ ตั้งกายตรง มี
กายคตาสติตั้งมั่นดีแล้วเฉพาะหน้าในภายใน ในที่ไม่ไกลพระผู้มีพระภาค พระผู้มีพระภาคได้ทรง
เห็นท่านพระมหากัจจานะนั่งคู้บัลลังก์ตั้งกายตรง มีกายคตาสติตั้งมั่นดีแล้วเฉพาะหน้าในภายใน
ในที่ไม่ไกล ฯ