พระสุตตันตปิฎกไทย: 25/142/157

สุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย ขุททกปาฐ-ธรรมบท-อุทาน-อิติวุตตกะ-สุตตนิบาต
เล่ม 25
หน้า 142
๕๐๐ มีพระนางสามาวดีเป็นประมุขทำกาละ คติแห่งอุบาสิกาเหล่านั้นเป็นอย่างไร ภพหน้าเป็น อย่างไร พระผู้มีพระภาคตรัสว่าดูกรภิกษุทั้งหลาย บรรดาอุบาสิกาเหล่านั้น อุบาสิกาที่เป็น พระโสดาบันมีอยู่เป็นพระสกทาคามินีมีอยู่ เป็นพระอนาคามินีมีอยู่ ดูกรภิกษุทั้งหลาย อุบาสิกา ทั้งหมดนั้นเป็นผู้ไม่ไร้ผลทำกาละ ฯ ลำดับนั้นแล พระผู้มีพระภาคทรงทราบเนื้อความนี้แล้ว ทรงเปล่งอุทานนี้ในเวลานั้นว่า สัตว์โลกมีโมหะเป็นเครื่องผูกพัน ย่อมปรากฏเหมือนสมบูรณ์ด้วยเหตุ คนพาลมีอุปธิเป็นเครื่องผูกพัน ถูกความมืดหุ้มห่อไว้ ย่อมปรากฏเหมือน ว่าเที่ยงยั่งยืน กิเลสเครื่องกังวลย่อมไม่มีแก่ผู้พิจารณาเห็นอยู่ ฯ จบสูตรที่ ๑๐ จบจูฬวรรคที่ ๗ __________ รวมพระสูตรที่มีในวรรคนี้ คือ ๑. ภัททิยสูตรที่ ๑ ๒. ภัททิยสูตรที่ ๒ ๓. กามสูตรที่ ๑ ๔. กามสูตรที่ ๒ ๕. ลกุณฐกภัททิยสูตร ๖. ตัณหักขยสูตร ๗. ปปัญจขยสูตร ๘. มหากัจจานสูตร ๙. อุทปานสูตร ๑๐. อุเทนสูตร ฯ