พระสุตตันตปิฎกไทย: 32/143/87 88
สุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย อปทาน ภาค ๑
รังสิสัญญกเถราปทานที่ ๕ (๘๕)
ว่าด้วยผลแห่งการถวายบังคม
[๘๗] เมื่อก่อน เราสำเร็จการอยู่ที่ภูเขาหิมวันต์ เรานุ่งห่มหนังสัตว์อยู่ในระหว่าง
ภูเขา เราได้เห็นพระสัมพุทธเจ้ามีพระฉวีวรรณดังทองคำ ดุจพระอาทิตย์
แผดแสง เสด็จเข้าป่า งามเหมือนพระยารังมีดอกบาน จึงยังจิตให้เลื่อมใส
ในรัศมีแล้วนั่งกระโหย่ง ประนมอัญชลี ถวายบังคมแด่พระผู้มีพระภาค
พระนามว่าวิปัสสี ด้วยเศียรเกล้า ในกัลปที่ ๙๑ แต่กัลปนี้ เราได้ทำ
กรรมใดในกาลนั้น ด้วยกรรมนั้น เราไม่รู้จักทุคติเลย นี้เป็นผลแห่งสัญญา
ในรัศมี คุณวิเศษเหล่านี้ คือ ปฏิสัมภิทา ๔ วิโมกข์ ๘ และอภิญญา ๖
เราทำให้แจ้งชัดแล้ว พระพุทธศาสนาเราได้ทำเสร็จแล้ว ดังนี้.
ทราบว่า ท่านพระรังสิสัญญกเถระได้กล่าวคาถาเหล่านี้ ด้วยประการฉะนี้แล.
จบ รังสิสัญญกเถราปทาน.
รังสิสัญญิกเถราปทานที่ ๖ (๘๖)
ว่าด้วยผลแห่งการทำจิตให้เลื่อมใสในพุทธรัศมี
[๘๘] เราทรงผ้าเปลือกไม้คากรองอยู่ที่ภูเขาหิมวันต์ ขึ้นสู่ที่จงกรมแล้วนั่งผินหน้า
ไปทางทิศปราจีน เราได้เห็นพระสุคตเจ้าพระนามว่าผุสสะ ผู้ยินดีในฌาน
ทุกเมื่อ (เสด็จมา) บนภูเขา จึงประนมอัญชลีแล้วยังจิตให้เลื่อมใสในพระ
รัศมี ในกัลปที่ ๙๒ แต่กัลปนี้ เราได้ทำกรรมใดในกาลนั้น ด้วยกรรมนั้น
เราไม่รู้จักทุคติเลย นี้เป็นผลแห่งสัญญาในพระรัศมี คุณวิเศษเหล่านี้ คือ
ปฏิสัมภิทา ๔ วิโมกข์ ๘ และอภิญญา ๖ เราทำให้แจ้งชัดแล้ว พระพุทธ
ศาสนาเราได้ทำเสร็จแล้ว ดังนี้.
ทราบว่า ท่านพระรังสิสัญญิกเถระได้กล่าวคาถาเหล่านี้ ด้วยประการฉะนี้แล.
จบ รังสิสัญญิกเถราปทาน.