พระสุตตันตปิฎกไทย: 23/147/104
สุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย สัตตก-อัฏฐก-นวกนิบาต
นั่นเอง ดูกรภิกษุทั้งหลาย ม้าโกงบางตัวในโลกนี้เป็นเช่นนี้ก็มี นี้เป็นโทษของม้าโกงประการ
ที่ ๗ ฯ
อีกประการหนึ่ง ม้าโกงบางตัวในโลกนี้ นายสารถีเตือนว่า จงเดินไป ถูกแทงด้วย
ประตักเตือนอยู่ คุกเท้าหน้า เท้าหลัง ลงนอนทับเท้าทั้ง ๔ ที่ตรงนั้นนั่นเอง ดูกรภิกษุทั้งหลาย
ม้าโกงบางตัวในโลกนี้ เป็นเช่นนี้ก็มี นี้เป็นโทษของม้าโกงประการที่ ๘ ดูกรภิกษุทั้งหลาย ม้า
โกง ๘ จำพวก และโทษของม้าโกง ๘ ประการนี้แล ฯ
ดูกรภิกษุทั้งหลาย ก็คนโกง ๘ จำพวก และโทษของคนโกง ๘ ประการเป็นไฉน
ดูกรภิกษุทั้งหลาย ในธรรมวินัยนี้ ภิกษุโจทภิกษุด้วยอาบัติ ภิกษุผู้เป็นจำเลยนั้น เมื่อถูกโจท
ด้วยอาบัติ ย่อมอำพรางอาบัติไว้ว่า ผมนึกไม่ได้ๆดูกรภิกษุทั้งหลาย เรากล่าวบุคคลนี้ เปรียบ
เหมือนม้าโกงที่นายสารถีเตือนว่าจงเดินไป ถูกแทงด้วยประตักเตือนอยู่ ย่อมถอยหลัง ดันให้
รถกลับหลัง ฉะนั้นดูกรภิกษุทั้งหลาย คนโกงบางคนในธรรมวินัยนี้ เป็นเช่นนี้ก็มี นี้เป็น
โทษของคนโกงประการที่ ๑ ฯ
อีกประการหนึ่ง ภิกษุโจทภิกษุด้วยอาบัติ ภิกษุผู้เป็นจำเลยนั้น เมื่อถูกโจทด้วยอาบัติ
กลับโต้ตอบการโจทนั่นเองว่า จะมีประโยชน์อะไรหนอ ด้วยคำที่ท่านซึ่งเป็นคนโง่ไม่ฉลาดกล่าว
ท่านเองควรสำนึกถึงคำที่ควรพูด ดูกรภิกษุทั้งหลาย เรากล่าวบุคคลนี้เปรียบเหมือนม้าโกงที่
นายสารถีเตือนว่า จงเดินไปถูกแทงด้วยประตักเตือนอยู่ ย่อมหกหลัง ดีดธูปหัก ฉะนั้น
ดูกรภิกษุทั้งหลายคนโกงบางคนในธรรมวินัยนี้ เป็นเช่นนี้ก็มี นี้เป็นโทษของคนโกงประการ
ที่ ๒
อีกประการหนึ่ง ภิกษุโจทภิกษุด้วยอาบัติ ภิกษุผู้เป็นจำเลยนั้น เมื่อถูกโจทด้วยอาบัติ
กลับโจทตอบแก่ภิกษุผู้โจทนั่นเองว่า แม้ท่านก็ต้องอาบัติชื่อนี้ท่านจงทำคืนเสียก่อน ดูกร
ภิกษุทั้งหลาย เรากล่าวบุคคลนี้ เปรียบเหมือนม้าโกงที่นายสารถีเตือนว่า จงเดินไป ถูกแทง
ด้วยประตักเตือนอยู่ ย่อมยกขาขึ้นตะกุยงอนรถ ถีบงอนรถ ฉะนั้น ดูกรภิกษุทั้งหลาย คนโกง
บางคนในธรรมวินัยนี้เป็นเช่นนี้ก็มี นี้เป็นโทษของคนโกงประการที่ ๓ ฯ
อีกประการหนึ่ง ภิกษุโจทภิกษุด้วยอาบัติ ภิกษุผู้เป็นจำเลยนั้น เมื่อถูกโจทด้วยอาบัติ
ย่อมพูดกลบเกลื่อน พูดนอกลู่นอกทาง แสดงความโกรธความขัดเคือง และความไม่ยำเกรง
ให้ปรากฏ ดูกรภิกษุทั้งหลาย เรากล่าวบุคคลนี้ เปรียบเหมือนม้าโกงที่นายสารถีเตือนว่า จง