พระสุตตันตปิฎกไทย: 25/147/165 166 167

สุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย ขุททกปาฐ-ธรรมบท-อุทาน-อิติวุตตกะ-สุตตนิบาต
เล่ม 25
หน้า 147
พระองค์ผู้เจริญ บัดนี้ เกวียนประมาณ ๕๐๐ เล่มผ่านไปแล้วน้ำนั้นถูกล้อเกวียนบดแล้ว ขุ่นมัว หน่อยหนึ่ง ไหลไปอยู่ แม่น้ำกุกุฏานทีนี้มีน้ำใสจืดเย็นสนิท มีท่าราบเรียบ ควรรื่นรมย์ อยู่ไม่ ไกลนัก พระผู้มีพระภาคจักเสวยน้ำและจักสรงชำระพระกายให้เย็นในแม่น้ำกุกุฏานทีนี้ แม้ครั้ง ที่ ๒ ...แม้ครั้งที่ ๓ พระผู้มีพระภาคก็ตรัสกะท่านพระอานนท์ว่า ดูกรอานนท์ เร็วเถิดเธอจง ไปนำน้ำดื่มมาให้เรา เรากระหาย จักดื่มน้ำ ท่านพระอานนท์ทูลรับพระผู้มีพระภาคแล้ว ถือบาตร เข้าไปยังแม่น้ำนั้น ฯ
[๑๖๕] ครั้งนั้นแล แม่น้ำนั้นถูกล้อเกวียนบดแล้ว ขุ่นมัวหน่อยหนึ่งไหลไปอยู่ เมื่อ ท่านพระอานนท์เดินเข้าไปใกล้ ใสแจ๋วไม่ขุ่นมัวไหลไปอยู่ลำดับนั้น ท่านพระอานนท์ดำริว่า ท่านผู้เจริญ น่าอัศจรรย์หนอ ท่านผู้เจริญไม่เคยมีมาแล้วหนอ ความที่พระตถาคตทรงมีฤทธิ์ มีอานุภาพมาก แม่น้ำนี้แลถูกล้อเกวียนบดแล้ว ขุ่นมัวหน่อยหนึ่งไหลไปอยู่ เมื่อเราเดินเข้าไป ใกล้ ใสแจ๋วไม่ขุ่นมัวไหลไปอยู่ ท่านพระอานนท์เอาบาตรตักน้ำแล้ว เข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาค ถึงที่ประทับ ครั้นแล้วได้กราบทูลพระผู้มีพระภาคว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ น่าอัศจรรย์ ข้าแต่ พระองค์ผู้เจริญ ไม่เคยมีมาแล้ว ความที่พระตถาคตทรงมีฤทธิ์มีอานุภาพมาก แม่น้ำนี้แล ถูก ล้อเกวียนบดแล้ว ขุ่นมัวหน่อยหนึ่งไหลไปอยู่เมื่อข้าพระองค์เดินเข้าไปใกล้ ใสแจ๋ว ไม่ขุ่นมัว ไหลไปอยู่ ขอพระผู้มีพระภาคเสวยน้ำเถิด ขอพระสุคตเสวยน้ำเถิด ครั้งนั้นแล พระผู้มีพระภาค ได้เสวยน้ำ ฯ
[๑๖๖] ครั้งนั้นแล พระผู้มีพระภาคพร้อมด้วยภิกษุสงฆ์เสด็จเข้าไปยังแม่น้ำกุกุฏานที ครั้นแล้วเสด็จลงแม่น้ำกุกุฏานที ทรงสรงและเสวยเสร็จแล้วเสด็จขึ้นแล้วเสด็จเข้าไปยังอัมพวัน ครั้นแล้วตรัสเรียกท่านพระจุนทกะว่า ดูกรจุนทกะ เธอจงปูลาดผ้าสังฆาฏิ ๔ ชั้นแก่เราเถิด เราเหน็ดเหนื่อยจักนอน ท่านพระจุนทกะทูลรับพระผู้มีพระภาคแล้ว ปูลาดผ้าสังฆาฏิ ๔ ชั้นถวาย ลำดับนั้นพระผู้มีพระภาคทรงสำเร็จสีหไสยาโดยพระปรัศว์เบื้องขวา ซ้อนพระบาทเหลื่อม พระบาท ทรงมีพระสติสัมปชัญญะ มนสิการอุฏฐานสัญญา ส่วนท่านพระจุนทกะนั่งอยู่เบื้องหน้า พระพักตร์พระผู้มีพระภาค ณ ที่สำเร็จสีหไสยานั้นเอง ฯ ครั้นกาลต่อมา พระธรรมสังคาหกาจารย์ได้รจนาคาถาเหล่านี้ไว้ว่า
[๑๖๗] พระพุทธเจ้าเสด็จไปยังแม่น้ำกุกุฏานที มีน้ำใสแจ๋วจืดสนิท เสด็จลง ไปแล้ว พระตถาคตผู้ศาสดาผู้ไม่มีบุคคลเปรียบในโลกนี้ มีพระกาย เหน็ดเหนื่อยนักแล้ว ทรงสรงและเสวยแล้วเสด็จขึ้น พระศาสดาผู้อัน