พระสุตตันตปิฎกไทย: 22/149/141 142
สุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย ปัญจก-ฉักกนิบาต
ติกัณฑกีวรรคที่ ๕
๑. ทัตวาอวชานาติสูตร
[๑๔๑] ดูกรภิกษุทั้งหลาย บุคคล ๕ จำพวกนี้ มีปรากฏอยู่ในโลก ๕ จำพวกเป็น
ไฉน คือ บุคคลให้แล้วย่อมดูหมิ่น ๑ บุคคลย่อมดูหมิ่นเพราะอยู่ร่วมกัน ๑ บุคคลเป็นผู้
เชื่อง่าย ๑ บุคคลเป็นผู้โลเล ๑ บุคคลเป็นผู้เขลาหลงงมงาย ๑ ฯ
ดูกรภิกษุทั้งหลาย ก็บุคคลให้แล้วย่อมดูหมิ่นอย่างไร บุคคลในโลกนี้ให้จีวร
บิณฑบาต เสนาสนะ และคิลานปัจจัยเภสัชบริขารแก่บุคคล เขาย่อมคิดอย่างนี้ว่า เราให้
ผู้นี้รับ ดังนี้ ให้แล้วย่อมดูหมิ่นบุคคลนั้น ดูกรภิกษุทั้งหลาย บุคคลให้แล้วย่อมดูหมิ่นอย่างนี้
แล ดูกรภิกษุทั้งหลาย ก็บุคคลย่อมดูหมิ่นเพราะอยู่ร่วมกันอย่างไร บุคคลในโลกนี้ อยู่
ร่วมกับบุคคลสองสามปีย่อมดูหมิ่นผู้นั้นเพราะอยู่ร่วมกัน ดูกรภิกษุทั้งหลาย บุคคลย่อมดูหมิ่น
เพราะอยู่ร่วมกันอย่างนี้แล ดูกรภิกษุทั้งหลาย ก็บุคคลเป็นผู้เชื่อง่ายอย่างไร บุคคล
บางคนในโลกนี้ เมื่อเขากล่าวคุณหรือโทษของผู้อื่น ย่อมน้อมใจเชื่อโดยเร็วพลัน ดูกรภิกษุ
ทั้งหลาย บุคคลเป็นผู้เชื่อง่ายอย่างนี้แล ดูกรภิกษุทั้งหลาย ก็บุคคลเป็นผู้โลเลอย่างไร คือ
บุคคลบางคนในโลก เป็นผู้มีศรัทธาเล็กน้อย มีความภักดีเล็กน้อยมีความรักเล็กน้อย มีความ
เลื่อมใสเล็กน้อย ดูกรภิกษุทั้งหลาย บุคคลเป็นผู้โลเลอย่างนี้แล ดูกรภิกษุทั้งหลาย ก็บุคคล
ผู้เขลาหลงงมงายอย่างไร บุคคลบางคนในโลกนี้ ย่อมไม่รู้กุศลธรรมและอกุศลธรรม
ย่อมไม่รู้ธรรมที่มีโทษและไม่มีโทษ ย่อมไม่รู้ธรรมที่เลวและประณีต ย่อมไม่รู้ธรรมฝ่ายดำและ
ฝ่ายขาว ดูกรภิกษุทั้งหลาย บุคคลเป็นผู้เขลาหลงงมงายอย่างนี้แล ดูกรภิกษุทั้งหลาย บุคคล
๕ จำพวกนี้แล มีปรากฏอยู่ในโลก ฯ
จบสูตรที่ ๑
๒. อารภสูตร
[๑๔๒] ดูกรภิกษุทั้งหลาย บุคคล ๕ จำพวกนี้ มีปรากฏอยู่ในโลก ๕ จำพวกเป็น
ไฉน ดูกรภิกษุทั้งหลาย บุคคลบางคนในธรรมวินัยนี้ ปรารภจะล่วงอาบัติ ย่อมเดือดร้อน