พระสุตตันตปิฎกไทย: 24/15/12
สุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย ทสก-เอกาทสกนิบาต
สัตว์เลื้อยคลานน้อย ๑ จีวร บิณฑบาตเสนาสนะ และเภสัชบริขารอันเป็นปัจจัยแห่งคนไข้
ย่อมเกิดขึ้นโดยไม่ฝืดเคืองแก่ภิกษุผู้อยู่ในเสนาสนะนั้น ๑ ภิกษุทั้งหลายผู้เป็นพระเถระ เป็น
พหูสูต ชำนาญคัมภีร์ ทรงธรรม ทรงวินัย ทรงมาติกา อยู่ในเสนาสนะนั้น ๑ ภิกษุนั้นเข้าไป
หาพระเถระเหล่านั้นตามกาลอันสมควร แล้วย่อมสอบถาม ไต่ถามว่า ข้าแต่ท่านผู้เจริญ ข้อนี้เป็น
อย่างไร เนื้อความของข้อนี้เป็นอย่างไร ๑ ท่านพระเถระเหล่านั้น ย่อมเปิดเผยข้อที่ยังไม่ได้เปิด
เผย ย่อมทำให้ง่ายซึ่งข้อที่ยังไม่ได้ทำให้ง่าย ย่อมบรรเทาความสงสัยในธรรมเป็นที่ตั้งแห่งความ
สงสัยแก่ภิกษุนั้น ๑ดูกรภิกษุทั้งหลาย เสนาสนะอันประกอบด้วยองค์ ๕ อย่างนี้แล ดูกร
ภิกษุทั้งหลายภิกษุผู้ประกอบด้วยองค์ ๕ เสพอยู่ คบอยู่ ซึ่งเสนาสนะอันประกอบด้วยองค์ ๕
ไม่นานนัก ก็พึงทำให้แจ้งซึ่งเจโตวิมุติ ปัญญาวิมุติ อันหาอาสวะมิได้ เพราะอาสวะทั้งหลาย
สิ้นไป ด้วยปัญญาอันยิ่งเองในปัจจุบันเข้าถึงอยู่ ฯ
จบสูตรที่ ๑
อังคสูตร
[๑๒] ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุผู้ละองค์ ๕ ได้แล้ว เป็นผู้ประกอบด้วยองค์ ๕ บัณฑิต
เรียกว่า ผู้ประกอบด้วยคุณทั้งมวล ผู้อยู่จบพรหมจรรย์ เป็นอุดมบุรุษ ในธรรมวินัยนี้ ดูกร
ภิกษุทั้งหลาย ภิกษุเป็นผู้ละองค์ ๕ ได้แล้วอย่างไรภิกษุในธรรมวินัยนี้ เป็นผู้ละกามฉันทะ
ได้แล้ว ๑ ละพยาบาทได้แล้ว ๑ ละถีนมิทธะได้แล้ว ๑ ละอุทธัจจกุกกุจจะได้แล้ว ๑ ละวิจิ
กิจฉาได้แล้ว ๑ ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุละองค์ ๕ ได้แล้วอย่างนี้แล ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุ
เป็นผู้ประกอบด้วยองค์ ๕ อย่างไร ภิกษุในธรรมวินัยนี้ เป็นผู้ประกอบด้วยศีลขันธ์อันเป็นของ
พระอเสขบุคคล ๑ ประกอบด้วยสมาธิขันธ์อันเป็นของพระอเสขบุคคล ๑ประกอบด้วยปัญญา
ขันธ์อันเป็นของพระอเสขบุคคล ๑ ประกอบด้วยวิมุตติขันธ์อันเป็นของพระอเสขบุคคล ๑ ประ
กอบด้วยวิมุตติญาณทัสสนขันธ์อันเป็นของพระอเสขบุคคล ๑ ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุเป็นผู้
ประกอบ ด้วยองค์ ๕ อย่างนี้แลดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุผู้ละองค์ ๕ ได้แล้ว ผู้ประกอบด้วย
องค์ ๕ บัณฑิตเรียกว่าผู้ประกอบด้วยคุณทั้งมวล ผู้อยู่จบพรหมจรรย์ เป็นอุดมบุรุษ ในธรรม
วินัยนี้ ฯ