พระสุตตันตปิฎกไทย: 22/150/142
สุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย ปัญจก-ฉักกนิบาต
และย่อมไม่ทราบชัดตามความเป็นจริงซึ่งเจโตวิมุติ ปัญญาวิมุติ อันเป็นที่ดับโดยไม่เหลือ แห่ง
ธรรมที่เป็นบาปอกุศลซึ่งเกิดขึ้นแล้วแก่เธอ ๑ บุคคลบางคนในธรรมวินัยนี้ ปรารภจะล่วงอาบัติ
ย่อมไม่เดือดร้อนและย่อมไม่ทราบชัดตามความเป็นจริงซึ่งเจโตวิมุติ ปัญญาวิมุติ อันเป็นที่ดับโดย
ไม่เหลือ แห่งธรรมที่เป็นบาปอกุศลซึ่งเกิดขึ้นแล้วแก่เธอ ๑ บุคคลบางคนในธรรมวินัยนี้ ไม่ปรารภ
จะล่วงอาบัติ ย่อมเดือดร้อน และย่อมไม่ทราบชัดตามความเป็นจริงซึ่งเจโตวิมุติ ปัญญาวิมุติ
อันเป็นที่ดับโดยไม่เหลือ แห่งธรรมที่เป็นบาปอกุศลซึ่งเกิดขึ้นแล้วแก่เธอ ๑ บุคคลบางคน
ในธรรมวินัยนี้ ไม่ปรารภจะล่วงอาบัติ ย่อมไม่เดือดร้อน และย่อมไม่ทราบชัดตามความเป็นจริง
ซึ่งเจโตวิมุติปัญญาวิมุติ อันเป็นที่ดับโดยไม่เหลือ แห่งธรรมที่เป็นบาปอกุศลซึ่งเกิดขึ้นแล้วแก่
เธอ ๑ บุคคลบางคนในธรรมวินัยนี้ ไม่ปรารภจะล่วงอาบัติ ย่อมไม่เดือดร้อนและย่อมทราบ
ชัดตามความเป็นจริงซึ่งเจโตวิมุติ ปัญญาวิมุติ อันเป็นที่ดับโดยไม่เหลือ แห่งธรรมที่เป็นบาป
อกุศลซึ่งเกิดขึ้นแล้วแก่เธอ ๑ ฯ
ดูกรภิกษุทั้งหลาย บรรดาบุคคล ๕ จำพวกนั้น บุคคลใดปรารภจะล่วงอาบัติ ย่อม
เดือดร้อน และย่อมไม่ทราบชัดตามความเป็นจริงซึ่งเจโตวิมุติ ปัญญาวิมุติ อันเป็นที่ดับโดยไม่
เหลือแห่งบาปอกุศลซึ่งเกิดขึ้นแล้วแก่เธอ บุคคลนั้นพึงเป็นผู้ควรกล่าวตักเตือนอย่างนี้ว่า อาสวะ
ที่เกิดเพราะปรารภจะล่วงอาบัติของท่านยังมีอยู่ อาสวะที่เกิดเพราะความเดือดร้อนของท่านยัง
เจริญอยู่ ขอท่านจงละอาสวะที่เกิดเพราะปรารภจะล่วงอาบัติ บรรเทาอาสวะที่เกิดเพราะความ
เดือดร้อนแล้ว จึงอบรมจิตและปัญญา ท่านจักเป็นผู้เทียมทันบุคคลจำพวกที่ ๕ โน้น เพราะ
การอบรมอย่างนี้ ฯ
บุคคลใด ปรารภจะล่วงอาบัติ ย่อมไม่เดือดร้อน และย่อมไม่ทราบชัดตามความเป็น
จริงซึ่งเจโตวิมุติ ปัญญาวิมุติ อันเป็นที่ดับโดยไม่เหลือ แห่งธรรมที่เป็นบาปอกุศลซึ่งเกิดขึ้น
แล้วแก่เธอ บุคคลนั้น พึงเป็นผู้ควรกล่าวตักเตือนอย่างนี้ว่า อาสวะที่เกิดเพราะปรารภจะล่วง
อาบัติของท่านยังมีอยู่ อาสวะที่เกิดเพราะความเดือดร้อนของท่านไม่เจริญ ขอท่านจงละอาสวะ
ที่เกิดเพราะปรารภจะล่วงอาบัติแล้ว จึงอบรมจิตและปัญญา ท่านจักเป็นผู้เทียมทันบุคคลจำพวกที่ ๕
โน้น เพราะการอบรมอย่างนี้ ฯ
บุคคลใด ไม่ปรารภจะล่วงอาบัติ ย่อมเดือดร้อน และย่อมไม่ทราบชัดตามความ
เป็นจริงซึ่งเจโตวิมุติ ปัญญาวิมุติ อันเป็นที่ดับโดยไม่เหลือ แห่งธรรมที่เป็นบาปอกุศลซึ่งเกิด
แล้วแก่เธอ บุคคลนั้น พึงเป็นผู้ควรกล่าวตักเตือนอย่างนี้ว่าอาสวะที่เกิดเพราะปรารภจะล่วง