พระสุตตันตปิฎกไทย: 10/159/192
สุตตันตปิฎก ทีฆนิกาย มหาวรรค
[๑๙๒] ข้าพระพุทธเจ้าเคลื่อนจากเทวโลกนี้เจ็ดครั้ง
จากมนุษยโลกนั้นเจ็ดครั้ง รวมท่องเที่ยวอยู่สิบสี่ครั้ง
ย่อมรู้จักภพที่ข้าพระพุทธเจ้าเคยอยู่อาศัยในก่อน ฯ
ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ข้าพระพุทธเจ้ามีความไม่ตกต่ำ ทราบชัดมานานวัน ถึงความไม่
ตกต่ำ อนึ่ง ข้าพระพุทธเจ้าตั้งความหวังไว้เพื่อความเป็นพระสกทาคามี ฯ
อา. ข้อที่ท่านชนวสภะยักษ์ประกาศว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ข้าพระพุทธ เจ้ามีความ
ไม่ตกต่ำ ทราบชัดมานานวันถึงความไม่ตกต่ำ และตั้งความหวังเพื่อ ความเป็นพระสกทาคามีนี้
น่าอัศจรรย์ ไม่เคยมีมา ก็มีอะไรเป็นเหตุ ท่าน ชนวสภะยักษ์ จึงทราบชัดการบรรลุคุณวิเศษ
อันโอฬารเห็นปานนี้เล่า ฯ
ภ. ชนวสภะยักษ์ประกาศว่า ข้าแต่พระผู้มีพระภาค ข้อที่ข้าพระพุทธเจ้า รู้การบรรลุ
คุณวิเศษอันโอฬารนี้นั้น ไม่เว้นจากศาสนาของพระองค์ ข้าแต่พระสุคต ไม่เว้นจากศาสนาของ
พระองค์ ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ตั้งแต่วันที่ข้าพระพุทธ เจ้าเลื่อมใสในพระผู้มีพระภาคอย่างยิ่งนั้น
เป็นต้นมา ข้าพระพุทธเจ้าไม่ตกต่ำ ทราบชัดมานานวันถึงความไม่ตกต่ำ อนึ่ง ข้าพระพุทธเจ้าตั้ง
ความหวังไว้เพื่อความ เป็นพระสกทาคามี ดังจะกราบทูลให้ทรงทราบ ข้าพระพุทธเจ้าถูกท้าวเวสสวร
รณ
มหาราชส่งไปในสำนักของท้าววิรุฬหกมหาราชด้วยกรณียกิจบางอย่าง ในระหว่าง ทาง ข้าพระ
พุทธเจ้าได้เห็นพระผู้มีพระภาค ซึ่งเสด็จไปยังพระตำหนักตึก ทรง ปรารภชาวมคธผู้บำเรอ ตั้ง
พระทัยมนสิการประมวลเหตุทั้งปวงด้วยพระทัยประทับ อยู่ด้วยทรงดำริว่า เราจักรู้คติ จักรู้ภพหน้า
ของชาวมคธเหล่านั้นว่า ผู้เจริญเหล่า นั้น มีคติเป็นอย่างไร มีภพหน้าเป็นอย่างไร ข้อที่ข้าพระ
พุทธเจ้ารับคำต่อหน้า ท้าวเวสสวรรณซึ่งกล่าวในบริษัทนั้นว่า ชาวมคธผู้เจริญเหล่านั้นมีคติเป็นอย่าง
ไร
เป็นความอัศจรรย์เล็กน้อย ข้าพระพุทธเจ้าคิดว่า เราจักเฝ้าพระผู้มีพระภาค และ จักกราบทูล
ข้อนี้แด่พระผู้มีพระภาค ข้าพระพุทธเจ้ามีเหตุ ๒ อย่างนี้แล ที่จะได้ เข้าเฝ้าพระผู้มีพระภาค
วันก่อนๆ นานมาแล้ว ในวันอุโบสถที่ ๑๕ ในราตรีวัน เพ็ญวัสสูปนายิกา เทวดาชั้นดาวดึงส์
ทั้งสิ้นนั่งประชุมกันในสุธรรมาสภาเทพบริษัท มากมายนั่งอยู่โดยรอบ และท้าวจาตุมหาราชนั่งอยู่
ใน ๔ ทิศ คือในทิศบูรพา ท้าวธตรัฏฐมหาราช นั่งผินหน้าไปทางทิศปัจจิม แวดล้อมด้วยเทวดา
ทั้งหลาย ใน ทิศทักษิณ ท้าววิรุฬหกมหาราช นั่งผินหน้าไปทางทิศอุดร แวดล้อมด้วยเทวดา