พระสุตตันตปิฎกไทย: 10/160/193 194 195

สุตตันตปิฎก ทีฆนิกาย มหาวรรค
เล่ม 10
หน้า 160
ทั้งหลาย ในทิศปัจจิม ท้าววิรูปักขมหาราช นั่งผินหน้าไปทางทิศบูรพา แวด ล้อมด้วยเทวดา ทั้งหลาย ในทิศอุดร ท้าวเวสสวรรณมหาราช นั่งผินหน้าไปทาง ทิศทักษิณ แวดล้อมด้วยเทวดา ทั้งหลาย ก็เมื่อเทวดาชั้นดาวดึงส์ทั้งสิ้นนั่งประชุม กันในสุธรรมาสภา เทพบริษัทมากมายนั่งอยู่ โดยรอบ และท้าวจาตุมหาราชนั่งอยู่ ในทิศทั้ง ๔ นี่อาสนะท้าวจาตุมหาราช ข้างหลังถัดออกมาก็ อาสนะของข้าพระพุทธ เจ้า เทวดาเหล่านั้นประพฤติพรหมจรรย์ในพระผู้มีพระภาคแล้วบังเกิดใน ภพดาว ดึงส์เมื่อกี้นี้ ย่อมไพโรจน์ล่วงเทวดาเหล่าอื่นด้วยวรรณะและยศ นัยว่า เพราะเหตุ นั้น เทวดาชั้นดาวดึงส์จึงปลื้มใจ เบิกบาน เกิดปีติและโสมนัสว่า ท่านผู้เจริญ ทั้งหลาย ทิพยกายย่อม บริบูรณ์หนอ อสุรกายย่อมเสื่อมไป ฯ ครั้งนั้นแล ท้าวสักกะจอมเทพ ทรงทราบความบันเทิงใจของเทวดาชั้น ดาวดึงส์แล้ว จึงทรงบันเทิงตามด้วยคาถาเหล่านี้ ความว่า
[๑๙๓] ท่านผู้เจริญทั้งหลาย เทวดาชั้นดาวดึงส์พร้อมกับพระอินทร์ ย่อมบันเทิงใจหนอ ถวายนมัสการพระตถาคต และความที่พระธรรมเป็นธรรมดี เห็นเทวดาผู้ ใหม่ๆ ผู้มีวรรณะ มียศ ประพฤติ พรหมจรรย์ในพระสุคตแล้ว มา ณ ที่นี้ เทวดาเหล่านั้นเป็น สาวกของพระพุทธเจ้า ผู้ทรงปัญญาอันกว้างขวาง บรรลุ คุณ วิเศษแล้ว ย่อมรุ่งเรืองล่วงเทวดาเหล่าอื่น ณ ที่นี้ ด้วยวรรณะ ด้วยยศ และอายุ เทวดาชั้นดาวดึงส์พร้อมกับพระอินทร์เห็น เช่นนี้ ย่อมชื่นบาน ถวายนมัสการพระตถาคต และความที่ พระธรรมเป็นธรรมดี ฯ
[๑๙๔] ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ นัยว่า เพราะเหตุนั้น เทวดาชั้นดาวดึงส์ จึงปลื้มใจ เบิกบาน เกิดปีติและโสมนัสยิ่งกว่าประมาณด้วยกล่าวกันว่า ท่านผู้ เจริญทั้งหลาย ทิพยกายย่อม บริบูรณ์หนอ อสุรกายย่อมเสื่อมไป ครั้งนั้น ท้าว จาตุมหาราชถึงแม้จะมีคำที่เทวดาชั้นดาวดึงส์ คิดกันปรึกษากันถึงความประสงค์ ซึ่ง เป็นเหตุให้นั่งประชุมกัน ณ สุธรรมาสภากล่าวแล้ว ก็มีในข้อ ประสงค์นั้น ท้าว จาตุมหาราช แม้รับคำสั่งกำชับมาแล้ว ก็มีในข้อประสงค์นั้น ยืนอยู่บนอาสนะ ของตนๆ ไม่หลีกไป ฯ ท้าวมหาราชเหล่านั้นผู้รับถ้อยคำ รับคำสั่งแล้ว มีใจผ่องใส สงบระงับ ยืนอยู่บนอาสนะของตนๆ ดังนี้ ฯ
[๑๙๕] ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ครั้งนั้นแล แสงสว่างอย่างยิ่งเกิดขึ้นใน ทิศอุดร โอภาส ปรากฏล่วงเทวานุภาพของเทวดาทั้งหลายครั้งนั้น ท้าวสักกะจอม เทพจึงตรัสเรียกเทวดาชั้นดาวดึงส์