พระสุตตันตปิฎกไทย: 10/161/196

สุตตันตปิฎก ทีฆนิกาย มหาวรรค
เล่ม 10
หน้า 161
มาว่า ดูกรท่านผู้นิรทุกข์ทั้งหลาย นิมิตปรากฏ แสงสว่างเกิดมี โอภาสปรากฏ พรหมจักเกิด ฉันใด ข้อที่แสงสว่างเกิดมี โอภาส ปรากฏนี้เป็นบุพพนิมิต เพื่อความเกิดของพรหม ฉันนั้น ฯ นิมิตปรากฏ พรหมจักเกิด ฉันใด ข้อที่โอภาสอันไพบูลย์ มากมายปรากฏนี้ เป็นบุพพนิมิตของพรหม ฉันนั้น ฯ
[๑๙๖] ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ครั้งนั้นแล เทวดาชั้นดาวดึงส์นั่งอยู่บน อาสนะของ ตนๆ กล่าวกันว่า เราทั้งหลายจักรู้โอภาสนั้น วิบากใดจักมี เราทั้งหลาย จักทำให้แจ้งซึ่งวิบากนั้น ก่อนแล้วจึงไป แม้ท้าวจาตุมหาราชนั่งอยู่บนอาสนะของ ตนๆ ก็กล่าวกันว่า เราทั้งหลายจักรู้ โอภาสนั้น วิบากใดจักมี เราทั้งหลายจัก ทำให้แจ้งซึ่งวิบากนั้นก่อนแล้วจึงไป เทวดาชั้นดาวดึงส์ ฟังความข้อนี้แล้วนั่งสงบ อารมณ์อยู่ด้วยประสงค์ว่า เราทั้งหลายจักรู้โอภาสนั้น วิบากใดจักมี เราทั้งหลาย จักทำให้แจ้งซึ่งวิบากนั้นก่อนแล้วจึงไป เมื่อใดสนังกุมารพรหมปรากฏแก่เทวดาชั้น ดาวดึงส์ นิรมิตอัตภาพใหญ่ยิ่ง เพศปรกติของพรหมอันเทวดาเหล่าอื่นไม่พึง ถึง ปรากฏในคลอง จักษุของเทวดาชั้นดาวดึงส์ เมื่อใดสนังกุมารพรหมปรากฏแก่ เทวดาชั้นดาวดึงส์ รุ่งเรืองล่วงเทวดา เหล่าอื่น ด้วยวรรณะและยศ ดุจเทวดามีกาย เป็นทองคำ ย่อมรุ่งเรืองล่วงกายของมนุษย์ฉะนั้น เมื่อใดสนังกุมารพรหมปรากฏ แก่เทวดาชั้นดาวดึงส์ เทวดาบางองค์ในบริษัทนั้น ไม่ไหว้ ไม่ ต้อนรับ หรือไม่ เชิญด้วยอาสนะ เทวดาทั้งหมดเทียว นั่งประคองอัญชลีอยู่บนบัลลังก์ บัดนี้ สนังกุมารพรหมจักปรารถนาแก่เทวดาองค์ใด จักนั่งบนบัลลังก์ของเทวดาองค์นั้น สนังกุมาร พรหมนั่งบนบัลลังก์ของเทวดาองค์ใด เทวดาองค์นั้นย่อมได้ความยินดี โสมนัสอย่างยิ่ง ดุจ พระราชาผู้กษัตริย์ได้มูรธาภิเษกแล้ว ครองราชสมบัติใหม่ ย่อมทรงได้ความยินดีโสมนัสอย่างยิ่ง ฉะนั้น เมื่อนั้น สนังกุมารพรหมนิรมิต อัตภาพใหญ่ยิ่ง เป็นเพศกุมารเช่นกับปัญจสิขเทพบุตร ปรากฏแก่เทวดาชั้นดาว ดึงส์ เธอเหาะขึ้นเวหาสนั่งขัดสมาธิในอากาศที่ว่างเปล่า เช่นบุรุษผู้มี กำลังนั่งขัด สมาธิบนบัลลังก์ที่ปูลาดดี หรือบนภูมิภาคราบเรียบฉะนั้น ทราบความเบิกบาน ใจของ เทวดาชั้นดาวดึงส์แล้ว ทรงบันเทิงตามด้วยคาถาเหล่านี้ ความว่า