พระสุตตันตปิฎกไทย: 18/161/262

สุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย สฬายตนวรรค
เล่ม 18
หน้า 161
ทั้งหลายพึงละความพอใจในรูปนั้น เสียงเป็นอนัตตา ...กลิ่นเป็นอนัตตา ... รสเป็นอนัตตา ... โผฏฐัพพะเป็นอนัตตา ... ธรรมารมณ์เป็นอนัตตา เธอทั้งหลายพึงละความพอใจในธรรมารมณ์ นั้นเสีย ดูกรภิกษุทั้งหลาย สิ่งใดเป็นอนัตตา เธอทั้งหลายพึงละความพอใจในสิ่งนั้นเสีย ฯ จบสูตรที่ ๑๖ ราคสูตรที่ ๖ ดูกรภิกษุทั้งหลาย สิ่งใดเป็นอนัตตา เธอทั้งหลายพึงละความรักใคร่ในสิ่งนั้นเสีย ดูกรภิกษุทั้งหลาย ก็สิ่งอะไรเล่าเป็นอนัตตา ดูกรภิกษุทั้งหลาย รูปเป็นอนัตตา เธอทั้งหลายพึง ละความรักใคร่ในรูปนั้นเสีย เสียงเป็นอนัตตา ...กลิ่นเป็นอนัตตา ... รสเป็นอนัตตา ... โผฏฐัพพะเป็นอนัตตา ... ธรรมารมณ์เป็นอนัตตา เธอทั้งหลายพึงละความรักใคร่ในธรรมารมณ์ นั้นเสีย ดูกรภิกษุทั้งหลาย สิ่งใดเป็นอนัตตา เธอทั้งหลายพึงละความรักใคร่ในสิ่งนั้นเสีย ฯ จบสูตรที่ ๑๗ ฉันทราคสูตรที่ ๖ ดูกรภิกษุทั้งหลาย สิ่งใดเป็นอนัตตา เธอทั้งหลายพึงละความพอใจและความรักใคร่ใน สิ่งนั้นเสีย ดูกรภิกษุทั้งหลาย ก็สิ่งอะไรเล่าเป็นอนัตตา ดูกรภิกษุทั้งหลาย รูปเป็นอนัตตา เธอทั้งหลายพึงละความพอใจและความรักใคร่ในรูปนั้นเสีย เสียงเป็นอนัตตา ... กลิ่นเป็น อนัตตา ... รสเป็นอนัตตา ... โผฏฐัพพะเป็นอนัตตา ... ธรรมารมณ์เป็นอนัตตา เธอทั้งหลาย พึงละความพอใจและความรักใคร่ในธรรมารมณ์นั้นเสีย ดูกรภิกษุทั้งหลาย สิ่งใดเป็นอนัตตา เธอทั้งหลายพึงละความพอใจและความรักใคร่ในสิ่งนั้นเสีย ฯ จบสูตรที่ ๑๘