พระสุตตันตปิฎกไทย: 32/161/112

สุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย อปทาน ภาค ๑
เล่ม 32
หน้า 161
จะทรงยังเราให้ยินดีจึงเสวย ครั้นเสวยเสร็จแล้ว ได้ตรัสพระคาถานี้ ว่า ท่านยังจิตให้เลื่อมใสแล้ว ได้ถวายมันมือเสือแก่เรา ท่านจะไม่เข้า ถึงทุคติตลอดแสนกัลป ภพที่สุดย่อมเป็นไปแก่เรา เราถอนภพขึ้นได้ ทั้งหมดแล้ว เราทรงกายที่สุดไว้ในศาสนาของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ในกัลปที่ ๕๔ แต่กัลปนี้ เราได้เป็นพระเจ้าจักรพรรดิพระนามว่าสุเมขลิมะ สมบูรณ์ด้วยแก้ว ๗ ประการ มีพลมาก คุณวิเศษเหล่านี้ คือ ปฏิ สัมภิทา ๔ วิโมกข์ ๘ และอภิญญา ๖ เราทำให้แจ้งชัดแล้ว พระพุทธ ศาสนาเราได้ทำเสร็จแล้ว ดังนี้. ทราบว่า ท่านพระพิฬาลิทายกเถระได้กล่าวคาถาเหล่านี้ ด้วยประการฉะนี้แล. จบ พิฬาลิทายกเถราปทาน. เรณุปูชกเถราปทานที่ ๑๐ (๑๑๐) ว่าด้วยผลแห่งการบูชาดอกกระถินพิมาน
[๑๑๒] เราได้เห็นพระสัมพุทธเจ้ามีพระฉวีวรรณดังทองคำ มีพระรัศมีเปล่งปลั่ง ดุจพระอาทิตย์ยังทิศทั้งปวงให้สว่างไสว ดังพระจันทร์วันเพ็ญ อันพระ สาวกทั้งหลายแวดล้อม ดุจแผ่นดินอันแวดล้อมด้วยสาคร จึงถือเอา ดอกกระถินพิมานไปบูชา พระผู้มีพระภาคพระนามว่าปัสสี ในกัลปที่ ๙๑ แต่กัลปนี้ เราได้บูชาพระพุทธเจ้าด้วยดอกกระถินพิมานใด ด้วยกรรมนั้น เราไม่รู้จักทุคติเลย นี้เป็นผลแห่งพุทธบูชา ในกัลปที่ ๔๕ แต่กัลปนี้ เราได้เป็นพระเจ้าจักรพรรดิจอมกษัตริย์มีพระนามว่าเรณุ สมบูรณ์ด้วยแก้ว ๗ ประการ มีพลมาก คุณวิเศษเหล่านี้ คือ ปฏิสัมภิทา ๔ วิโมกข์ ๘ และอภิญญา ๖ เราทำให้แจ้งชัดแล้ว พระพุทธศาสนาเราได้ทำเสร็จ แล้ว ดังนี้.