พระสุตตันตปิฎกไทย: 20/166/500
สุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย เอก-ทุก-ติกนิบาต
พ. ดูกรพราหมณ์ ท่านได้กล่าววาจาที่ควรนำไปใกล้เราแน่แท้เทียวแลเออก็เราจัก
พยากรณ์แก่ท่านว่า เพราะเราแสดงฤทธิ์ได้เป็นอันมาก ฯลฯ ใช้อำนาจทางกายไปตลอดพรหม
โลกก็ได้ ดูกรพราหมณ์ เพราะเรากำหนดรู้ใจของผู้ที่เข้าสมาธิ อันไม่มีวิตกวิจารด้วยใจของตน
ว่า ท่านผู้นี้ตั้งมโนสังขารไว้ด้วยประการใดจักตรึกวิตกชื่อโน้นในลำดับจิตนี้ด้วยประการนั้น
เพราะเราพร่ำสอนอยู่อย่างนี้ว่าจงตรึกอย่างนี้ อย่าตรึกอย่างนี้ จงมนสิการอย่างนี้ อย่ามนสิการ
อย่างนี้ จงละสิ่งนี้เสีย จงเข้าถึงสิ่งนี้อยู่ ฯ
สัง. ข้าแต่พระโคดมผู้เจริญ ก็แม้ภิกษุอื่นรูปหนึ่งผู้ประกอบด้วยปาฏิหาริย์ ๓ อย่างนี้
นอกจากท่านพระโคดม มีอยู่หรือ ฯ
พ. ดูกรพราหมณ์ ไม่ใช่มีร้อยเดียว ไม่ใช่สองร้อย ไม่ใช่สามร้อยไม่ใช่สี่ร้อย ไม่
ใช่ห้าร้อย ที่แท้ภิกษุผู้ประกอบด้วยปาฏิหาริย์ ๓ อย่างนี้ มีอยู่มากมายทีเดียว ฯ
สัง. ข้าแต่พระโคดมผู้เจริญ ก็บัดนี้ ภิกษุเหล่านั้นอยู่ไหน ฯ
พ. ดูกรพราหมณ์ อยู่ในหมู่ภิกษุนี้เองแหละ ฯ
สัง. ข้าแต่พระโคดมผู้เจริญ ภาษิตของพระองค์แจ่มแจ้งนัก ข้าแต่พระโคดมผู้เจริญ
ภาษิตของพระองค์แจ่มแจ้งนัก พระองค์ทรงประกาศธรรมโดยอเนกปริยาย เปรียบเหมือนบุคคล
หงายของที่คว่ำ เปิดของที่ปิด บอกทางแก่ผู้หลงทาง หรือส่องประทีปในที่มืดด้วยตั้งใจว่า คน
มีจักษุจักมองเห็นรูป ฉะนั้นข้าแต่พระโคดมผู้เจริญ ข้าพระองค์นี้ขอถึงท่านพระโคดม กับทั้ง
พระธรรมและพระภิกษุสงฆ์เป็นสรณะ ขอท่านพระโคดมโปรดทรงจำข้าพระองค์ว่าเป็นอุบาสกผู้
ถึงสรณะตลอดชีวิต จำเดิมแต่วันนี้เป็นต้นไป ฯ
จบพราหมณวรรคที่ ๑
___________
รวมพระสูตรที่มีในวรรคนี้ คือ
๑. ชนสูตรที่ ๑ ๒. ชนสูตรที่ ๒ ๓. พราหมณสูตร ๔. ปริพาชกสูตร๕. นิพพุต
สูตร ๖. ปโลภสูตร ๗. ชัปปสูตร ๘. ติกรรณสูตร ๙. ชานุสโสณีสูตร ๑๐. สังคารวสูตร ฯ
______________