พระสุตตันตปิฎกไทย: 30/170/456 457 458 459 460 461

สุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย จูฬนิทเทส
เล่ม 30
หน้า 170
เครื่องผูก เครื่องมัวหมองของโลก. โลกอันความเพลินนี้ประกอบไว้ ประกอบทั่ว เหนี่ยวรั้ง ผูกไว้ คล้องไว้ เกี่ยวไว้ พันไว้. เพราะฉะนั้น จึงชื่อว่า โลกมีความเพลินเป็นเครื่องประกอบไว้.
[๔๕๖] วิตก ๙ คือ กามวิตก พยาบาทวิตก วิหิงสาวิตก วิตกถึงญาติ วิตกถึงชนบท วิตกถึงเทวดา วิตกอันปฏิสังยุตด้วยความเอ็นดูผู้อื่น วิตกอันปฏิสังยุตด้วยลาภ สักการะ และ สรรเสริญ วิตกอันปฏิสังยุตด้วยความไม่อยากให้ผู้อื่นดูหมิ่นตน เหล่านี้เรียกว่าวิตก ๙ ชื่อว่า วิตก ในอุเทศว่า วิตกฺกสฺส วิจารณา ดังนี้. วิตก ๙ อย่างนี้เป็นเครื่องสัญจรไป เที่ยวไป ท่องเที่ยวไป ของโลกนั้น. โลกนั้นย่อมสัญจร เที่ยวไป ท่องเที่ยวไป ด้วยวิตก ๙ อย่างนี้. เพราะฉะนั้น จึงชื่อว่า วิตกเป็นเครื่องเที่ยวไปของโลกนั้น.
[๔๕๗] รูปตัณหา สัททตัณหา คันธตัณหา รสตัณหา โผฏฐัพพตัณหา ธรรมตัณหา ชื่อว่า ตัณหา ในอุเทศว่า ตณฺหาย วิปฺปหาเนน นิมฺมานํ อิติ วุจฺจติ ดังนี้. คำว่า เรากล่าวว่า นิพพาน เพราะละตัณหาเสียได้ ความว่า เราย่อมกล่าว ย่อมบอก เล่า ขาน แสดง บัญญัติว่า นิพพาน เพราะละ สงบ สละคืน ระงับตัณหาเสียได้ เพราะ ฉะนั้น จึงชื่อว่า เรากล่าวว่า นิพพาน เพราะละตัณหาเสียได้. เพราะเหตุนั้น พระผู้มีพระภาค จึงตรัสว่า โลกมีความเพลินเป็นเครื่องประกอบไว้. วิตกเป็นเครื่อง เที่ยวไปของโลกนั้น. เรากล่าวว่า นิพพาน เพราะละตัณหา เสียได้.
[๔๕๘] เมื่อโลกมีสติอย่างไรเที่ยวไป วิญญาณจึงดับ? พวกข้าพระองค์ มาแล้วเพื่อทูลถาม พระผู้มีพระภาค. พวกข้าพระองค์จะขอฟัง พระดำรัสนั้นของพระองค์.
[๔๕๙] คำว่า เมื่อโลกมีสติอย่างไรเที่ยวไป ความว่า เมื่อโลกมีสติสัมปชัญญะอย่างไร เที่ยวไป เที่ยวไปทั่ว ผลัดเปลี่ยนอิริยาบถ เป็นไป รักษา บำรุง เยียวยา. เพราะฉะนั้น จึง ชื่อว่า เมื่อโลกมีสติอย่างไรเที่ยวไป?
[๔๖๐] คำว่า วิญญาณจึงดับ ความว่า วิญญาณดับ สงบ ถึงความตั้งอยู่ไม่ได้ ระงับ ไป. เพราะฉะนั้น จึงชื่อว่า วิญญาณจึงดับ.
[๔๖๑] คำว่า พวกข้าพระองค์มาแล้วเพื่อจะทูลถามพระผู้มีพระภาค ความว่า พวก ข้าพระองค์มาแล้ว คือ มาถึง เข้ามาถึง มาประชุมกับพระองค์เพื่อจะทูลถาม คือ เพื่อสอบถาม