พระสุตตันตปิฎกไทย: 32/175/126 127

สุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย อปทาน ภาค ๑
เล่ม 32
หน้า 175
คันโธทกิยเถราปทานที่ ๔ (๑๒๔) ว่าด้วยผลแห่งการประพรมน้ำหอม
[๑๒๖] เรานั่งอยู่ในปราสาทอันประเสริฐ ได้เห็นพระชินเจ้าพระนามว่าวิปัสสี งามดังไม้รกฟ้าผู้เป็นสัพพัญญู เป็นผู้นำอันอุดม พระองค์ผู้นำของโลก เสด็จดำเนินในที่ไม่ไกลปราสาท รัศมีของพระองค์สว่างไสว ในเมื่อ พระอาทิตย์อัสดงคตแล้ว เราประคองน้ำหอม ประพรม (บูชา) พระ พุทธเจ้าผู้ประเสริฐสุด ด้วยจิตอันเลื่อมใสนั้น เราทำกาลกิริยา ณ ที่นั้น ในกัลปที่ ๙๑ แต่กัลปนี้ เราได้ปะพรมน้ำหอมใด ด้วยกรรมนั้น เรา ไม่รู้จักทุคติเลย นี้เป็นผลแห่งพุทธบูชา ในกัลปที่ ๓๑ แต่กัลปนี้ ได้มี พระเจ้าจักรพรรดิจอมกษัตริย์ พระนามว่าสุคนธ์ ทรงสมบูรณ์ด้วยแก้ว ๗ ประการ มีพลมาก คุณวิเศษเหล่านี้ คือ ปฏิสัมภิทา ๔ วิโมกข์ ๘ และอภิญญา ๖ เราทำให้แจ้งชัดแล้ว พระพุทธศาสนาเราได้ทำเสร็จแล้ว ดังนี้. ทราบว่า ท่านคันโธทกิยเถระได้กล่าวคาถาเหล่านี้ ด้วยประการฉะนี้แล. จบ คันโธทกิยเถราปทาน. สัมมุขาถวิกเถราปทานที่ ๕ (๑๒๕) ว่าด้วยผลแห่งการชมเชยพระพุทธเจ้า
[๑๒๗] เมื่อพระวิปัสสีโพธิสัตว์ประสูติ เราได้พยากรณ์นิมิตว่า จักยังหมู่ชนให้ ดับ จักเป็นพระพุทธเจ้าในโลก เมื่อพระผู้มีพระภาคพระองค์ใดประสูติ หมื่นโลกธาตุย่อมหวั่นไหว บัดนี้ พระผู้มีพระภาคพระองค์นั้น เป็น ศาสดาผู้มีพระจักษุ ทรงแสดงธรรมอยู่ เมื่อพระผู้มีพระภาคพระองค์ใด ประสูติ ได้มีแสงสว่างอันไพบูลย์ บัดนี้ พระผู้มีพระภาคพระองค์นั้น เป็นศาสดาผู้มีพระจักษุ ทรงแสดงธรรมอยู่ เมื่อพระผู้มีพระภาคพระองค์ใด ประสูติ แม่น้ำทั้งหลายไม่ไหล บัดนี้ พระผู้มีพระภาคพระองค์นั้น เป็น