พระสุตตันตปิฎกไทย: 32/177/128

สุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย อปทาน ภาค ๑
เล่ม 32
หน้า 177
ด้วยแก้ว ๗ ประการ มีพลมาก ในกัลปที่ ๘๖ แต่กัลปนี้ เราได้เป็น พระเจ้าจักรพรรดิมีนามว่า อัคคินิพพาปนะ สมบูรณ์ด้วยแก้ว ๗ ประการ มี พลมาก ในกัลปที่ ๘๕ แต่กัลปนี้ เราได้เป็นพระเจ้าจักรพรรดิมีนามว่า วาตสมะ สมบูรณ์ด้วยแก้ว ๗ ประการ มีพลมาก ในกัลปที่ ๘๔ แต่ กัลปนี้ เราได้เป็นพระเจ้าจักรพรรดิราชมีนามว่า คติปัจเฉทนะ สมบูรณ์ ด้วยแก้ว ๗ ประการ มีพลมาก ในกัลปที่ ๘๓ แต่กัลปนี้ เราได้เป็น พระเจ้าจักรพรรดิมีนามว่า รัตนปัชชละ สมบูรณ์ด้วยแก้ว ๗ ประการ มี พลมาก ในกัลปที่ ๘๒ แต่กัลปนี้ เราได้เป็นพระเจ้าจักรพรรดิราชมีนาม ว่า ปทวิกกมนะ สมบูรณ์ด้วยแก้ว ๗ ประการ มีพลมาก ในกัลปที่ ๘๑ แต่กัลปนี้ เราได้เป็นพระเจ้าจักรพรรดิราชมีนามว่า วิโลกนะ สมบูรณ์ ด้วยแก้ว ๗ ประการ มีพลมาก ในกัลปที่ ๘๐ แต่กัลปนี้ เราได้เป็น พระเจ้าจักรพรรดิมีนามว่า คิริสาระ สมบูรณ์ด้วยแก้ว ๗ ประการ มีพล มาก คุณวิเศษเหล่านี้ คือ ปฏิสัมภิทา ๔ วิโมกข์ ๘ และอภิญญา ๖ เราทำให้แจ้งชัดแล้ว พระพุทธศาสนาเราได้ทำเสร็จแล้ว ดังนี้. ทราบว่า ท่านพระสัมมุขาถวิกเถระได้กล่าวคาถาเหล่านี้ ด้วยประการฉะนี้แล. จบ สัมมุขาถวิกเถราปทาน. กุสุมาสนิยเถราปทานที่ ๖ (๑๒๖) ว่าด้วยผลแห่งการถวายอามิสพระพุทธเจ้า
[๑๒๘] ในกาลนั้น เราเป็นพราหมณ์อยู่ในนครธัญญวดี รู้จบไตรเพท เป็นผู้ เข้าใจตัวบท เข้าใจไวยากรณ์ เป็นผู้ฉลาดในตำรา ทำนายลักษณะคัมภีร์ อิติหาสะ และตำราทำนายนิมิต พร้อมทั้งคัมภีร์นิฆัณฑุและคัมภีร์เกฏุภะ บอกมนต์กะศิษย์ทั้งหลาย เราวางดอกอุบล ๕ กำไว้บนหลัง เราประสงค์ จะบวงสรวงบูชายัญในสมาคมบิดามารดา ในกาลนั้น พระผู้มีพระภาค พระนามว่าวิปัสสีผู้ประเสริฐกว่านระ แวดล้อมด้วยภิกษุสงฆ์ ทรงยังทิศ ทั้งปวงให้สว่างไสวเสด็จมา เราปูลาดอาสนะแล้ว ลาดดอกอุบลนั้น แล้วนิมนต์พระมหามุนี นำมาสู่เรือนของตน อามิสอันใดที่เราตระเตรียม ไว้ มีอยู่ในเรือนของตน เราเลื่อมใสได้ถวายอามิสนั้น แด่พระพุทธเจ้า ด้วยมือทั้งสองของตน เราทราบเวลาที่พระผู้มีพระภาคเสวยแล้ว ได้ถวาย ดอกอุบลกำหนึ่ง พระสัพพัญญูทรงอนุโมทนาแล้ว บ่ายพระพักตร์กลับ