พระสุตตันตปิฎกไทย: 23/18/20
สุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย สัตตก-อัฏฐก-นวกนิบาต
วัชชีพึงหวังความเจริญได้แน่นอน ไม่พึงหวังความเสื่อมเลย เพียงนั้น ชาววัชชีจักถวายความ
อารักขา ความคุ้มครอง ป้องกันโดยชอบธรรมในพระอรหันต์ทั้งหลาย เป็นอย่างดี ด้วยหวังว่า
ไฉนพระอรหันต์ทั้งหลายที่ยังไม่มาพึงมาสู่แว่นแคว้น และที่มาแล้ว พึงอยู่เป็นสุขเพียงใด
ชาววัชชีพึงหวังความเจริญได้แน่นอน ไม่พึงหวังความเสื่อมเลย เพียงนั้น ดูกรลิจฉวีทั้งหลาย
อปริหานิยธรรม ๗ ประการนี้ จักตั้งอยู่ในชาววัชชี และชาววัชชียังปรากฏอยู่ใน อปริหานิยธรรม
๗ ประการนี้ เพียงใด ชาววัชชีพึงหวังความเจริญได้แน่นอนไม่พึงหวังความเสื่อมเลย เพียงนั้น ฯ
จบสูตรที่ ๑
วัสสการสูตร
[๒๐] สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคประทับอยู่ ณ ภูเขาคิชฌกูฏ ใกล้พระนครราชคฤห์
ก็โดยสมัยนั้นแล พระเจ้าแผ่นดินมคธ พระนามว่าอชาตสัตรูเวเทหีบุตร ทรงพระประสงค์จะ
ยาตราทัพไปย่ำยีชาววัชชี ท้าวเธอจึงตรัสอย่างนี้ว่าเราจักตัดเจ้าวัชชีผู้มีฤทธิ์ มีอานุภาพมาก
อย่างนี้ๆ ให้ขาดสูญ ให้พินาศ ให้ถึงความย่อยยับดับสูญ ครั้งนั้นแล พระเจ้าแผ่นดินมคธ
พระนามว่าอชาตสัตรูเวเทหีบุตร จึงตรัสเรียกวัสสการพราหมณ์มหาอำมาตย์ของแคว้นมคธมา
ปรึกษาว่า ดูกรท่านพราหมณ์ เชิญท่านเข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคถึงที่ประทับ จงถวายบังคม
พระบาทของพระผู้มีพระภาคด้วยเศียรเกล้าตามคำสั่งของเรา จงทูลถามถึงความเป็นผู้มีพระอาพาธ
น้อย มีพระโรคเบาบาง กระปรี้กระเปร่า ทรงมีกำลัง ความอยู่สำราญว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ
พระเจ้าแผ่นดินมคธพระนามว่าอชาตสัตรูเวเทหีบุตร ทรงถวายบังคมพระบาทของพระผู้มีพระภาค
ด้วยเศียรเกล้า ฯ ทรงทูลถามถึงความเป็นผู้มีพระอาพาธน้อย มีพระโรคเบาบาง กระปรี้กระเปร่า
ทรงมีกำลังความอยู่สำราญ และจงกราบทูลอย่างนี้ว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ พระเจ้าแผ่นดินมคธ
พระนามว่าอชาตสัตรูเวเทหีบุตร ทรงพระประสงค์จะยาตราทัพไปย่ำยีชาววัชชีท้าวเธอตรัส
อย่างนี้ว่า เราจักตัดเจ้าวัชชีผู้มีฤทธิ์มีอานุภาพมากอย่างนี้ๆ ให้ขาดสูญให้พินาศ ให้ถึงความ