พระสุตตันตปิฎกไทย: 15/181/591 592 593 594 595
สุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย สคาถวรรค
"วิมานของท่านนั้นถึงจะรุ่งโรจน์ส่องสว่างอยู่ในทิศอุดรก็จริง ถึงเช่นนั้นเพราะเห็นโทษ
ในรูป
[และ] เพราะเห็นรูปอันหวั่นไหวด้วยความหนาวเป็นต้นอยู่ เป็นนิจ ฉะนั้นพระศาสดา
ผู้มีเมธาดีจึงไม่ยินดีในรูป"
[๕๙๑] ครั้งนั้นแล สุพรหมปัจเจกพรหมและสุทธาวาสปัจเจกพรหม ยังพรหมนั้นให้
สลดใจแล้วหายไปในที่นั้นเอง ฯ
ก็พรหมนั้น โดยสมัยต่อมาได้ไปสู่ที่บำรุงของพระผู้มีพระภาคผู้เป็น พระอรหันตสัมมา
สัมพุทธเจ้าแล้วแล ฯ
ปฐมโกกาลิกสูตรที่ ๗
[๕๙๒] สาวัตถีนิทาน ฯ
ก็สมัยนั้นแล พระผู้มีพระภาคทรงประทับพักกลางวันหลีกเร้นอยู่แล้ว ฯ
ครั้งนั้นแล สุพรหมปัจเจกพรหมและสุทธาวาสปัจเจกพรหมเข้าไปใกล้ ที่ประทับของ
พระผู้มีพระภาค ครั้นแล้วได้ยืนพิงบานประตูคนละข้าง ฯ
[๕๙๓] ลำดับนั้นแล สุพรหมปัจเจกพรหมปรารภพระโกกาลิกภิกษุ ได้กล่าวคาถานี้ใน
สำนักพระผู้มีพระภาคว่า
"ใครผู้มีปัญญาในโลกนี้ จะพึงกำหนดวัดซึ่งพระขีณาสพผู้มีคุณอันใครๆ
ประมาณไม่ได้ เราเห็นว่าผู้นั้นไม่มีธุตธรรมเป็นปุถุชน วัดอยู่ซึ่ง
พระขีณาสพผู้มีคุณ อันใครๆ ประมาณมิได้ ฯ
ติสสกสูตรที่ ๘
[๕๙๔] สาวัตถีนิทาน ฯ
ก็โดยสมัยนั้นแล พระผู้มีพระภาคทรงประทับพักกลางวันหลีกเร้นอยู่แล้ว ฯ
ครั้งนั้นแล สุพรหมปัจเจกพรหมและสุทธาวาสปัจเจกพรหมเข้าไปใกล้ ที่ประทับของ
พระผู้มีพระภาค ครั้นแล้วได้ยืนพิงบานประตูคนละข้าง ฯ
[๕๙๕] ลำดับนั้นแล สุทธาวาสปัจเจกพรหมปรารภกตโมรกติสสกภิกษุ ได้กล่าวคาถานี้
ในสำนักของพระผู้มีพระภาคว่า