พระสุตตันตปิฎกไทย: 15/182/596 597

สุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย สคาถวรรค
เล่ม 15
หน้า 182
ใครผู้มีปัญญาในโลกนี้จะพึงกำหนดวัดซึ่งพระขีณาสพผู้มีคุณ อันใครๆ ประมาณไม่ได้ เราเห็นว่าผู้นั้นไม่มีธุตธรรม เป็นคนไม่มีปัญญา วัดอยู่ ซึ่งพระขีณาสพผู้มีคุณอันใครๆประมาณมิได้ ตุทุพรหมสูตรที่ ๙
[๕๙๖] สาวัตถีนิทาน ฯ ก็โดยสมัยนั้นแล พระโกกาลิกภิกษุ เป็นผู้อาพาธ ถึงความลำบากเป็นไข้หนัก ฯ ครั้งนั้นแล ตุทุปัจเจกพรหม เมื่อราตรีปฐมยามล่วงไปแล้วมีรัศมีอันงามยิ่งนัก ยังพระ วิหารเชตวันทั้งสิ้นให้สว่าง เข้าไปหาพระโกกาลิกภิกษุจนถึงที่อยู่ ครั้นแล้วได้ยืนในเวหาส กล่าวคำนี้กะพระโกกาลิกภิกษุว่า "ข้าแต่ท่านโกกาลิก ท่านจงทำจิตให้เลื่อมใสในพระสารีบุตรและพระโมคคัลลานะ พระสารีบุตรและพระโมคคัลลานะ เป็นผู้มีศีลเป็นที่รัก" ฯ พระโกกาลิกภิกษุถามว่า "ผู้มีอายุ ท่านเป็นใคร" ฯ ตุทุปัจเจกพรหมตอบว่า "เราคือตุทุปัจเจกพรหม" ฯ พระโกกาลิกภิกษุกล่าวว่า "ผู้มีอายุ พระผู้มีพระภาคได้ทรงพยากรณ์ท่านแล้วว่าเป็น พระอนาคามี มิใช่หรือ ไฉนเล่า ท่านจึงยังมาเที่ยวอยู่ในที่นี้ จงเห็นเถิดว่า ก็นี่เป็นความผิด ของท่านเพียงไร ฯ
[๕๙๗] ตุทุปัจเจกพรหมได้กล่าวว่า ชนพาลเมื่อกล่าวคำเป็นทุพภาษิต ชื่อว่าย่อมตัดตนด้วย ศัสตราใด ก็ศัสตรา นั้นย่อมเกิดในปากของบุรุษผู้เกิดแล้ว ฯผู้ใดสรรเสริญผู้ที่ควรถูกติ หรือ ติผู้ที่ควรได้รับความสรรเสริญผู้นั้นชื่อว่าสั่งสมโทษด้วยปาก เพราะ โทษนั้น เขาย่อมไม่ประสบความสุข ฯ ความปราชัยด้วยทรัพย์ ในเพราะการพนันทั้งหลาย พร้อมด้วยสิ่งของ ของตนทั้งหมดก็ดี พร้อมด้วยตนก็ดี ก็เป็นโทษเพียงเล็กน้อย ฯ