พระสุตตันตปิฎกไทย: 32/187/140

สุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย อปทาน ภาค ๑
เล่ม 32
หน้า 187
นารทะนั้นชมเชยพระสัมพุทธเจ้าพระนามว่าปทุมุตระผู้ไม่แพ้ด้วย ๓ คาถา นี้แล้วเดินไปข้างหน้า ด้วยจิตอันเลื่อมใสและด้อยการชมเชยพระพุทธเจ้า นั้น เราไม่ได้เข้าถึงทุคติเลยตลอดแสนกัลป ในกัลปที่ ๓๐๐๐ แต่กัลปนี้ ได้มีพระเจ้าจักรพรรดิจอมกษัตริย์พระนามว่าสุมิตตะ ทรงสมบูรณ์ด้วยแก้ว ๗ ประการ มีพลมาก คุณวิเศษเหล่านี้ คือ ปฏิสัมภิทา ๔ วิโมกข์ ๘ และอภิญญา ๖ เราทำให้แจ้งชัดแล้ว พระพุทธศาสนาเราได้ทำเสร็จแล้ว ดังนี้. ทราบว่า ท่านพระอัตถสันทัสสกเถระได้กล่าวคาถาเหล่านี้ ด้วยประการฉะนี้แล. จบ อัตถสันทัสสกเถราปทาน. เอกรังสนิยเถราปทานที่ ๘ (๑๓๘) ว่าด้วยผลแห่งการเลื่อมใสในการฟังธรรม
[๑๔๐] ชนทั้งหลายรู้จักเราว่า เกสวะ โดยนามชื่อว่านารทะ เราแสวงหากุศล และอกุศลอยู่ ได้ไปสู่สำนักพระพุทธเจ้า พระมหามุนีพระนามว่าอัตถทัสสี ทรงมีจิตเมตตา ประกอบด้วยพระกรุณา พระองค์ผู้มีจักษุ เมื่อทรงปลอบ สัตว์ทั้งหลายให้เบาใจ ทรงแสดงธรรมอยู่ เรายังจิตของตนให้เลื่อมใส ประนมกรอัญชลีบนเศียรเกล้า ถวายบังคมพระศาสดาแล้ว บ่ายหน้ากลับ ไปทางทิศประจิม ในกัลปที่ ๑๗๐๐ แต่กัลปนี้ ได้มีพระเจ้าจักรพรรดิราช เป็นใหญ่ในแผ่นดิน พระนามว่า อมิตตตปนะ มีพลมาก คุณวิเศษ เหล่านี้ คือ ปฏิสัมภิทา ๔ วิโมกข์ ๘ และอภิญญา ๖ เราทำให้แจ้ง ชัดแล้ว พระพุทธศาสนาเราได้ทำเสร็จแล้ว ดังนี้. ทราบว่า ท่านพระเอกรังสนิยเถระได้กล่าวคาถาเหล่านี้ ด้วยประการฉะนี้แล. จบ เอกรังสนิยเถราปทาน