พระสุตตันตปิฎกไทย: 15/188/610 611 612

สุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย สคาถวรรค
เล่ม 15
หน้า 188

[๖๑๐] ท้าวสหัมบดีพรหมยืนอยู่ ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่งแล้วปรารภพระเทวทัตต์ ได้ภาษิตคาถานี้ในสำนักพระผู้มีพระภาคว่า ผลกล้วยแลย่อมฆ่าต้นกล้วย ขุยไผ่ย่อมฆ่าต้นไผ่ ขุยอ้อย่อมฆ่าต้นอ้อ สักการะย่อมฆ่าบุรุษชั่ว เหมือนลูกในท้องฆ่าแม่ม้าอัศดร ฉะนั้น ฯ อันธกวินทสูตรที่ ๓
[๖๑๑] สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคประทับอยู่ในอันธกวินทคาม ในแคว้นมคธ ฯ ก็โดยสมัยนั้นแล พระผู้มีพระภาคประทับนั่งอยู่ในที่แจ้งในราตรีอันมืด และฝนกำลังตก ประปรายอยู่ ฯ ลำดับนั้นแล ท้าวสหัมบดีพรหม เมื่อราตรีปฐมยามล่วงไปแล้ว มีรัศมีอันงดงามยิ่ง ยังอันธกวินทคามทั้งสิ้นให้สว่างแล้ว เข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาค ถึงที่ประทับ ถวายอภิวาทพระผู้มี พระภาคแล้วได้ยืนอยู่ ณ ที่ควรข้างหนึ่ง ฯ
[๖๑๒] ท้าวสหัมบดีพรหมยืนอยู่ ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่งแล้ว ได้ภาษิตคาถาเหล่านี้ ในสำนักพระผู้มีพระภาคว่า ภิกษุพึงเสพที่นอนและที่นั่งอันสงัด พึงประพฤติเพื่อความหลุดพ้นจาก สัญโญชน์ ถ้าว่าภิกษุไม่พึงได้ความยินดีในที่นั้นไซร้ ก็พึงเป็นผู้มีตน อันรักษาแล้ว มีสติ พึงอยู่ในหมู่ภิกษุผู้เที่ยวไปอยู่จากตระกูลสู่ตระกูล เพื่อบิณฑบาต มีอินทรีย์อันคุ้มครองแล้ว มีปัญญารักษาตน มีสติ พึง เสพที่นอนและที่นั่งอันสงัด ภิกษุพ้นแล้วจากภัย น้อมไปแล้วในธรรม อันไม่มีภัย ปราศจากความสยดสยอง นั่งอยู่แล้วในที่มีสัตว์เลื้อยคลาน อันน่ากลัว สายฟ้าฉวัดเฉวียน ฝนตกในราตรีอันมืด ก็ข้าพระองค์ไม่ อาจกำหนดนับในใจของข้าพระองค์ได้เลยว่า เหตุนี้ข้าพระองค์เคยเห็น แล้วแน่ ข้าพระองค์ไม่กล่าวถึงเหตุนี้ว่าเป็นอย่างนี้ในพรหมจรรย์ (คือ ธรรมเทศนา) คราวหนึ่งเกิดมีพระขีณาสพผู้ละความตายได้มีจำนวนพัน พระเสขะมากกว่าห้าร้อย และพระเสขะทั้งสิบ ทั้งร้อย ทั้งหมดถึง