พระสุตตันตปิฎกไทย: 15/189/613 614 615
สุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย สคาถวรรค
กระแสมรรคแล้ว ไม่ไปสู่กำเนิดสัตว์ดิรัจฉานส่วนหมู่สัตว์นอกนี้เป็น
ผู้มีส่วนบุญดังนี้ เพราะกลัวมุสาวาท ฯ
อรุณวตีสูตรที่ ๔
[๖๑๓] สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคประทับอยู่ในพระวิหารเชตวัน อารามของท่าน
อนาถบิณฑิกเศรษฐี เขตกรุงสาวัตถี ฯ
ในที่นั้นแล พระผู้มีพระภาคตรัสเรียกภิกษุทั้งหลายว่า ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุเหล่านั้น
ทูลรับพระดำรัสของพระผู้มีพระภาคแล้ว ฯ
[๖๑๔] พระผู้มีพระภาคได้ตรัสคำนี้ว่า ดูกรภิกษุทั้งหลาย เรื่องเคยมี มาแล้ว มีพระราชา
พระนามว่า "อรุณวา" ราชธานีของพระเจ้าอรุณวามีนามว่า "อรุณวตี" พระผู้มีพระภาคอรหันต
สัมมาสัมพุทธพระนามว่าสิขี ทรงเข้าไปอาศัย ราชธานีอรุณวตีประทับอยู่ ฯ
ก็พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธพระนามว่าสิขี ได้มีคู่พระสาวก นามว่า
พระอภิภูและพระสัมภวะ เป็นคู่พระสาวกที่เจริญเลิศ ฯ
[๖๑๕] ดูกรภิกษุทั้งหลาย ครั้งนั้นแล พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า
พระนามว่าสิขี ตรัสเรียกภิกษุนามว่าอภิภูมาว่า ดูกรพราหมณ์ มาเถิด เราจักไปพรหมโลกชั้นใด
ชั้นหนึ่งชั่วกาล กว่าจะถึงเวลาฉัน ฯ
ภิกษุอภิภูทูลรับพระดำรัสของพระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธ พระนามว่าสิขีแล้ว ฯ
ลำดับนั้นแล พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธพระนามว่าสิขี และ ภิกษุอภิภูได้
หายไปจากอรุณวตีราชธานี ปรากฏในพรหมโลกนั้น เหมือนอย่างบุรุษผู้มีกำลังเหยียดแขนที่งอเข้า
มาแล้วออกไป หรืองอแขนที่เหยียดออกไปแล้วเข้ามา ฉะนั้น ฯ
ลำดับนั้นแล พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระนามว่าสิขี ตรัสกะภิกษุอภิภู
ว่า ดูกรพราหมณ์ ธรรมีกถาจงแจ่มแจ้งแก่พรหม พรหมบริษัทและพรหมปาริสัชชะทั้งหลายเถิด
ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุอภิภูรับพระดำรัสของพระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธพระนามว่าสิขี
แล้ว แล้วยังพรหม พรหมบริษัท และพรหมปาริสัชชะทั้งหลาย ให้เห็นแจ้ง ให้สมาทาน
ให้อาจหาญ ให้ รื่นเริง ด้วยธรรมมีกถาแล้ว ฯ