พระสุตตันตปิฎกไทย: 21/191/196

สุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย จตุกกนิบาต
เล่ม 21
หน้า 191
ความตรัสรู้ชั้นเยี่ยม ดูกรสาฬหะ เปรียบเหมือนบุรุษใคร่จะข้ามแม่น้ำ พึงถือผึ่งอันคมเข้าไปสู่ป่า เขาพบต้นรังใหญ่ในป่านั้น ลำต้นตรง ยังหนุ่ม ไม่มีที่น่ารังเกียจ เขาพึงตัดที่โคน ตัดที่ปลาย ริดกิ่งและใบเรียบร้อยดีแล้ว ถากด้วยผึ่ง แล้วเกลาด้วยมีด ขีดลงพอเป็นรอย ขัดด้วยลูกหินแล้ว ปล่อยลงแม่น้ำ ดูกรสาฬหะ ท่านจะสำคัญความข้อนั้นเป็นไฉน บุรุษนั้นควรจะข้ามแม่น้ำนั้นได้หรือ ฯ ส. ข้อนั้นเป็นไม่ได้ พระเจ้าข้า ฯ พ. ข้อนั้นเพราะเหตุไร ฯ ส. ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ เพราะต้นรังนั้นเขาแต่งเกลี้ยงเกลาในภายนอก ไม่เรียบร้อย ในภายใน บุรุษนั้นพึงหวังข้อนี้ได้ว่า ไม้รังจะต้องจม และบุรุษนั้นจักถึงความพินาศ พระเจ้าข้า ฯ พ. ดูกรสาฬหะ ฉันนั้นเหมือนกันแล สมณพราหมณ์เหล่าใดมีวาทะยกย่องการเกลียด ตบะ ถือการเกลียดตบะเป็นสาระ ติดอยู่ในการเกลียดตบะสมณพราหมณ์เหล่านั้นไม่ควรเพื่อ รื้อถอนโอฆะออก อนึ่ง สมณพราหมณ์เหล่าใดมีความประพฤติทางกายไม่บริสุทธิ์ มีความ ประพฤติทางวาจาไม่บริสุทธิ์ มีความประพฤติทางใจไม่บริสุทธิ์ มีอาชีพไม่บริสุทธิ์ สมณพราหมณ์ เหล่านั้นไม่ควรเพื่อญาณทัศนะ เพื่อความตรัสรู้ชั้นเยี่ยม ส่วนสมณพราหมณ์เหล่าใด ไม่เป็นผู้มี วาทะยกย่องการเกลียดตบะ ไม่ถือการเกลียดตบะเป็นสาระ ไม่ติดอยู่ในการเกลียดตบะ สมณ พราหมณ์เหล่านั้นควรเพื่อรื้อถอนโอฆะออกได้ อนึ่ง สมณพราหมณ์เหล่าใดมีความประพฤติทางกาย บริสุทธิ์ มีความประพฤติทางวาจาบริสุทธิ์มีความประพฤติทางใจบริสุทธิ์ มีอาชีพบริสุทธิ์ สมณ พราหมณ์เหล่านั้นควรเพื่อญาณทัศนะ เพื่อความตรัสรู้ชั้นเยี่ยม เปรียบเหมือนบุรุษใคร่จะข้ามแม่น้ำ ถือเอาผึ่งอันคมเข้าไปสู่ป่า เขาเห็นต้นรังใหญ่ในป่านั้น ลำต้นตรง ยังหนุ่ม ไม่มีที่น่ารังเกียจ เขาพึงตัดมันที่โคน แล้วตัดปลาย ริดกิ่งและใบเรียบร้อยดีแล้ว ถากด้วยผึ่ง เกลาด้วยมีด ขัดแต่ง ด้วยสิ่ว ทำภายในให้เรียบร้อย ขุดเป็นร่อง แล้วขัดด้วยลูกหิน กระทำให้เป็นเรือ ติดกรรเชียง และหางเสือ แล้วปล่อยลงแม่น้ำดูกรสาฬหะ ท่านจะสำคัญความข้อนั้นเป็นไฉน บุรุษนั้นควร ข้ามแม่น้ำได้หรือไม่ ฯ ส. ได้ พระเจ้าข้า ฯ พ. ข้อนั้นเพราะเหตุไร ฯ ส. ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ เพราะต้นรังนั้นเขาแต่งเกลี้ยงเกลาดีในภายนอก เรียบร้อย ในภายใน ทำเป็นเรือ ติดกรรเชียงและหางเสือ บุรุษนั้นพึงหวังข้อนี้ได้ว่า เรือจักไม่จม บุรุษนั้น จักถึงฝั่งได้โดยสวัสดี พระเจ้าข้า ฯ