พระสุตตันตปิฎกไทย: 32/192/147
สุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย อปทาน ภาค ๑
ที่สถูป ในห้องพระธาตุอันประเสริฐสุด ในกาลนั้น เรามีจิตเลื่อมใส
มีใจโสมนัสได้ทำไพรที่ไม้จันทน์อันหนึ่ง อันสมบูรณ์แก่สถูปและถวายธูป
และของหอม ในภพที่เราเกิด คือ ในความเป็นเทวดาหรือมนุษย์ เราไม่
เห็นความที่เราเป็นผู้ต่ำทรามเลย นี้เป็นผลแห่งบุญกรรมในกัลปที่ ๑๕๐๐
แต่กัลปนี้ ได้มีพระเจ้าจักรพรรดิ ๘ พระองค์ ทรงพระนามว่า สมัตตะ
ทุกพระองค์ มีพลมาก คุณวิเศษเหล่านี้ คือ ปฏิสัมภิทา ๔ วิโมกข์ ๘
และอภิญญา ๖ เราทำให้แจ้งชัดแล้ว พระพุทธศาสนาเราได้ทำเสร็จแล้ว
ดังนี้.
ทราบว่า ท่านพระสปริวาริยเถระได้กล่าวคาถาเหล่านี้ ด้วยประการฉะนี้แล.
จบ สปริวาริยเถราปทาน.
อุมมาปุปผิยเถราปทานที่ ๕ (๑๔๕)
ว่าด้วยผลแห่งการบูชาดอกผักตบ
[๑๔๗] เมื่อพระผู้มีพระภาคพระนามว่าสิทธัตถะ ผู้ทรงเกื้อกูลแก่โลก สมควรรับ
เครื่องรับบูชา นิพพานแล้ว ได้มีการฉลองพระสถูปอย่างมโหฬาร เมื่อ
การฉลองพระสถูปแห่งพระผู้มีพระภาคพระนามว่าสิทธัตถะ ผู้แสวงหา
คุณอันยิ่งใหญ่เป็นไปอยู่ เราเอาดอกผักตบไปบูชาที่พระสถูป ในกัลปที่ ๙๔
แต่กัลปนี้ เราบูชาพระสถูปด้วยดอกไม้ใด ด้วยการบูชานั้น เราไม่รู้จัก
ทุคติเลย นี้เป็นผลแห่งการบูชาพระสถูปด้วยดอกไม้ ในกัลปที่ ๙ แต่
กัลปนี้ ได้มีพระเจ้าจักรพรรดิ ๘๕ พระองค์ ทรงพระนามเหมือนกันว่า
โสมเทวะ มีพลมาก คุณวิเศษเหล่านี้ คือ ปฏิสัมภิทา ๔ วิโมกข์ ๘
และอภิญญา ๖ เราทำให้แจ้งชัดแล้ว พระพุทธศาสนาเราได้ทำเสร็จแล้ว
ดังนี้.
ทราบว่า ท่านพระอุปมาปุปผิยเถระได้กล่าวคาถาเหล่านี้ ด้วยประการฉะนี้แล.
จบ อุมมาปุปผิยเถราปทาน.