พระสุตตันตปิฎกไทย: 32/197/153 154

สุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย อปทาน ภาค ๑
เล่ม 32
หน้า 197
พันธุชีวกวรรคที่ ๑๖ พันธุชีวกเถราปทานที่ ๑ (๑๕๑) ว่าด้วยผลแห่งการบูชาด้วยพวงมาลัยดอกชะบา
[๑๕๓] เราได้เห็นพระผู้มีพระภาคพระนามว่าสิขี ผู้ปราศจากมลทินบริสุทธิ์ผ่องใส ไม่ขุ่นมัวดังพระจันทร์ มีความเพลิดเพลินและภพสิ้นแล้ว ทรงข้ามตัณหา ในโลกแล้ว ผู้ยังหมู่ชนให้ดับ ทรงข้ามเองแล้วยังหมู่ชนให้ข้าม เป็นมุนี เพ่งฌานอยู่ในป่า มีจิตเป็นอารมณ์เดียวตั้งมั่นด้วยดี เราร้อยดอกชะบา หลายดอกไว้ในเส้นด้ายแล้ว บูชาพระพุทธเจ้าพระนามว่า สิขีผู้เป็นเผ่า พันธุ์ของโลก ในกัลปที่ ๓๑ แต่กัลปนี้ เราได้ทำกรรมในกาลนั้น ด้วยกรรม นั้นเราไม่รู้จักทุคติเลย นี้เป็นผลแห่งพุทธบูชา ในกัลปที่ ๗ แต่กัลปนี้ เรา ได้เป็นพระเจ้าจักรพรรดิ พระนามว่าสมันตจักษุ เป็นจอมมนุษย์ มีบริวาร มาก มีพลมาก คุณวิเศษเหล่านี้ คือปฏิสัมภิทา ๔ วิโมกข์ ๘ และ อภิญญา ๖ เราทำให้แจ้งชัดแล้ว พระพุทธศาสนาเราได้ทำเสร็จแล้ว ดังนี้. ทราบว่า ท่านพระพันธุชีวกเถระได้กล่าวคาถาเหล่านี้ ด้วยประการฉะนี้แล. จบ พันธุชีวกเถราปทาน. ตัมพปุปผิยเถราปทานที่ ๒ (๑๕๒) ว่าด้วยผลแห่งการทำความสะอาดต้นโพธิ์
[๑๕๔] เราเป็นผู้ประกอบในการทำกรรมของบุคคลอื่น ได้ทำความผิดเพียบพร้อม ด้วยภัยและเวร จึงวิ่งหนีไปตามชายป่า ได้เห็นต้นไม้มีดอกเป็นกลุ่มก้อน บานสะพรั่ง จึงถือเอาดอกมันแดงไปเกลี่ยลงที่โพธิฤกษ์ ได้กวาดไม้แค ฝอย อันเป็นไม้โพธิ์อันอุดมนั้นแล้ว เข้าไปนั่งคู้บัลลังก์ (ขัดสมาธิ) ที่ โคนโพธิ์ ชนทั้งหลายแสวงหาทางไปอยู่ ได้มาสู่ที่ใกล้เรา และเราเห็นชน