พระสุตตันตปิฎกไทย: 32/200/158 159
สุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย อปทาน ภาค ๑
กทัมพปุปผิยเถราปทานที่ ๖ (๑๕๖)
ว่าด้วยผลแห่งการบูชาด้วยดอกกระทุ่ม
[๑๕๘] มีภูเขาชื่อกุกกุฏะอยู่ในที่ไม่ไกลแต่ภูเขาหิมวันต์ พระปัจเจกพุทธเจ้า ๗
องค์อยู่ใกล้เชิงภูเขานั้น เราเห็นต้นกระทุ่มมีดอกบาน ดังพระจันทร์ขึ้นไป
บนท้องฟ้า จึงประคองด้วยมือทั้งสอง บูชาพระปัจเจกพุทธเจ้าทั้ง ๗ องค์
ในกัลปที่ ๙๔ แต่กัลปนี้ เราได้บูชาพระปัจเจกพุทธเจ้าด้วยดอกไม้ใด
ด้วยการบูชานั้น เราไม่รู้จักทุคติเลย นี้เป็นผลแห่งการบูชาพระปัจเจก
พุทธเจ้า ในกัลปที่ ๙๒ แต่กัลปนี้ ได้มีพระเจ้าจักรพรรดิ ๗ พระองค์
ทรงพระนามว่าปุปผะ สมบูรณ์ด้วยแก้ว ๗ ประการ มีพลมาก คุณวิเศษ
เหล่านี้ คือ ปฏิสัมภิทา ๔ วิโมกข์ ๘ และอภิญญา ๖ เราทำให้แจ้งชัด
แล้ว พระพุทธศาสนาเราได้ทำเสร็จแล้ว ดังนี้.
ทราบว่า ท่านพระกทัมพปุปผิยเถระได้กล่าวคาถาเหล่านี้ ด้วยประการฉะนี้แล.
จบ กทัมพปุปผิยเถราปทาน.
ติณสูลกเถราปทานที่ ๗ (๑๕๗)
ว่าด้วยผลแห่งการถวายดอกมะลิซ้อน
[๑๕๙] มีภูเขาชื่อภูตคณะอยู่ในที่ไม่ไกลแต่ภูเขาหิมวันต์ พระชินปัจเจกพุทธเจ้า
องค์หนึ่ง สละโลกแล้วมาอยู่ ณ ภูเขานั้น เราถือเอาดอกมะลิซ้อนไปบูชา
แด่พระพุทธเจ้า เราไม่ตกลงในจตุราบายตลอด ๙ หมื่นกัลป (แสนกัลป
หย่อนหนึ่ง) ในกัลปที่ ๑๑ แต่กัลปนี้ เราได้เป็นพระเจ้าจักรพรรดิ
พระองค์หนึ่ง มีพระนามว่าธรณีรุหะ สมบูรณ์ด้วยแก้ว ๗ ประการ มีพล
มาก คุณวิเศษเหล่านี้ คือ ปฏิสัมภิทา ๔ วิโมกข์ ๘ และอภิญญา ๖ เราทำ
ให้แจ้งชัดแล้ว พระพุทธศาสนาเราได้ทำเสร็จแล้ว ดังนี้.
ทราบว่า ท่านพระติณสูลกเถระได้กล่าวคาถาเหล่านี้ ด้วยประการฉะนี้แล.
จบ ติณสูลกเถราปทาน.