พระสุตตันตปิฎกไทย: 23/202/133

สุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย สัตตก-อัฏฐก-นวกนิบาต
เล่ม 23
หน้า 202
ดูกรวิสาขา ๑๐๐ ปีมนุษย์ ฯลฯ ดูกรวิสาขา ๒๐๐ ปีมนุษย์ ฯลฯ ดูกรวิสาขา ๔๐๐ ปีมนุษย์ ฯลฯ ดูกรวิสาขา ๘๐๐ ปีมนุษย์ ฯลฯ ดูกรวิสาขา ๑,๖๐๐ ปีมนุษย์ เป็นคืนหนึ่งวันหนึ่งของเทวดาชั้นปรนิมมิตวสวัตตี ๓๐ ราตรี โดยราตรีนั้นเป็นเดือนหนึ่ง ๑๒ เดือนโดยเดือนนั้นเป็นปีหนึ่ง ๑๖,๐๐๐ ปีทิพย์โดยปีนั้น เป็น ประมาณอายุของเทวดาชั้นปรนิมมิตวสวัตตี ดูกรวิสาขา ข้อที่บุคคลบางคนในโลกนี้ จะเป็น หญิงหรือชายก็ตามเข้าอยู่อุโบสถอันประกอบด้วยองค์ ๘ ประการแล้ว เมื่อตายไป พึงเข้าถึง ความเป็นสหายแห่งเทวดาชั้นปรนิมมิตวสวัตตี นี้เป็นฐานะที่จะมีได้ ดูกรวิสาขา เราหมายเอา ข้อนี้จึงกล่าวว่า ราชสมบัติมนุษย์เป็นเหมือนของคนกำพร้า เมื่อเทียบกับสุขอันเป็นทิพย์ ฯ บุคคลไม่พึงฆ่าสัตว์ ไม่พึงถือเอาสิ่งของที่เจ้าของไม่ให้ พึง เว้นจากเมถุนธรรม อันมิใช่ความประพฤติของพรหม ไม่พึง พูดเท็จ ไม่พึงดื่มน้ำเมา ไม่พึงบริโภคอาหารในเวลาวิกาล ในราตรี ไม่พึงทัดทรงดอกไม้และของหอม พึงนอนบน เตียง บนแผ่นดิน หรือบนเครื่องลาดด้วยหญ้า บัณฑิต ทั้งหลายกล่าวอุโบสถ ๘ ประการนี้แล ที่พระพุทธเจ้าผู้ถึงที่ สุดแห่งทุกข์ ทรงประกาศแล้ว พระจันทร์และพระอาทิตย์ ทั้งสองส่องแสงสว่างไสว ย่อมโคจรไปตามวิถีเพียงไร พระจันทร์และพระอาทิตย์นั้น ก็ขจัดมืดได้เพียงนั้น ลอย อยู่บนอากาศ ส่องแสงสว่างทั่วทุกทิศในท้องฟ้า ทรัพย์ใด อันมีอยู่ในระหว่างนี้ คือ แก้วมุกดา แก้วมณี แก้วไพฑูรย์ อย่างดีหรือทองมีสีสุกใส ที่เรียกกันว่า หตกะ พระจันทร์ พระอาทิตย์และทรัพย์นั้นๆ ก็ยังไม่ได้แม้เสี้ยวที่ ๑๖ แห่ง อุโบสถอันประกอบด้วยองค์ ๘ ประการ เปรียบเหมือน รัศมีพระจันทร์ ข่มหมู่ดวงดาวทั้งหมด ฉะนั้น เพราะ ฉะนั้นแหละ หญิงหรือชายผู้มีศีล เข้าอยู่อุโบสถอัน ประกอบด้วยองค์ ๘ ประการแล้ว กระทำบุญมีสุขเป็น กำไร ไม่มีใครติเตียน ย่อมเข้าถึงสวรรค์ ฯ จบสูตรที่ ๓